ถ้าพูดถึง คอลลาเจน และกลูต้าไธโอน น้อยคนนักที่จะไม่เคยได้ยินหรือไม่รู้จัก โดยเฉพาะสายบิวตี้ทั้งหลายน่าจะเคยทานกันมาบ้างแล้ว หรือบางคนอาจจะเป็นไอเทมที่ต้องทานทุกวันแบบขาดไม่ได้ แต่สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ยังไม่เคยทานหรือยังไม่รู้ว่าประโยชน์ของ 2 ตัวนี้คืออะไร และมันต่างกันยังไง วันนี้เราจะมาเผยแบบหมดเปลือก ให้เพื่อน ๆ ที่กำลังตัดสินใจจะทาน เลือกทานได้อย่างเหมาะสมกับปัญหาผิวของแต่ละคนค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
คอลลาเจน (Collagen)
ผิวเหี่ยว หน้าแก่ เพราะร่างกายขาดคอลลาเจนหรือเปล่า มาทำความรู้จักกับเจ้าคอลลาเจนที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบันกันดีกว่าค่ะ คอลลาเจน (Collagen) ก็คือเส้นใยโปรตีนชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่คล้ายกาวยึดเกาะส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย เพิ่มความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่อวัยวะต่าง ๆ เป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนัง เส้นผม กระดูกอ่อน ข้อต่อ หลอดเลือด กล้ามเนื้อ รวมถึงเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ทั่วร่างกาย
ซึ่งปกติแล้วร่างกายคนเราจะสามารถผลิตคอลลาเจนขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ โดยได้รับจากการทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ปลา พืช หรือผลิตภัณฑ์จากนม โดยร่างกายจะสามารถผลิตคอลลาเจนได้มากในขณะที่เรามีอายุน้อย และจะลดปริมาณการผลิตคอลลาเจนลงเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีอายุมากกว่า 25 ปี ขึ้นไป พบว่าร่างกายจะเริ่มผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง โดยสัญญาณที่บ่งบอกว่าร่างกายคุณผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงคือ ผิวของคุณจะไม่เต่งตึงเหมือนเมื่อก่อน มีริ้วรอย และมีอาการปวดตามข้อต่อ เพราะกระดูกอ่อนอ่อนแอลงตามอายุที่มากขึ้นนั้นเอง
คอลลาเจน 5 ชนิดที่พบมากที่สุดในร่างกาย
-
- คอลลาเจนประเภทที่ 1 (type I) พบมากถึง 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย ช่วยในการสร้างกระดูก ผนังหลอดเลือด เอ็นและเอ็นยึดกล้ามเนื้อ ผิวหนัง กระจกตา และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน มีความเหนียวและแข็งแรงมากที่สุด
- คอลลาเจนประเภทที่ 2 (type II) พบมากในกระดูกอ่อน เช่น ส่วนประกอบของหู จมูก หลอดลม และกระดูกซี่โครง
- คอลลาเจนประเภทที่ 3 (type III) มักพบร่วมกับประเภทที่ 1 คือพบในผิว กล้ามเนื้อ และผนังหลอดเลือด
- คอลลาเจนประเภทที่ 4 (type IV) พบใน basal lamina และ basement membrane ในส่วนของ epithelium-secreted layer เป็นคอลลาเจนที่มีลักษณะเฉพาะตัว พบมากบริเวณเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อและไขมันนอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยในเรื่องการทำงานของระบบประสาทและเส้นเลือดอีกด้วย
- คอลลาเจนประเภทที่ 5 (type V) เป็นคอลลาเจนที่เป็นองค์ประกอบของเยื่อบุเซลล์ต่าง ๆ พบในผิวของเซลล์ ผม และรก
ซึ่งสรรพคุณเด่นของคอลลาเจนที่ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก นั่นก็คือ การช่วยลดเลือนริ้วรอยก่อนวัยบนใบหน้า ทำให้ดูอ่อนเยาว์ ดูเด็กลง และทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ใครไม่อยากดูแก่กว่าวัย แต่ก็ไม่อยากฉีดหรือศัลยกรรมให้เจ็บตัว แนะนำให้ทานคอลลาเจนเลยค่ะ คอลลาเจน ยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง ดังนี้
-
- ช่วยให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
- ช่วยลดริ้วรอย เติมเต็มร่องลึก ให้คุณดูเด็กกว่าวัย
- ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ผิวดูอิ่มฟู เรียบเนียน
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวไม่แห้งกร้าน
- ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
- บำรุงกระดูก ข้อต่อและข้อเข่า ลดอาการปวดข้อได้
- ช่วยลดการแตกเปราะ หักง่ายของเล็บ
ถึงแม้ว่าร่างกายจะสามารถสร้างคอลลาเจนได้เอง และเราสามารถรับคอลลาเจนได้เพิ่มจากการทานอาหารบางชนิด แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ ในปัจจุบันการทานอาหารเสริมประเภทคอลลาเจนจึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่จะทานคอลลาเจนยังไงให้เห็นผลและได้รับประสิทธิภาพมากที่สุด ลองมาดูเคล็ดลับการทานคอลลาเจนที่เรานำมาฝากกันค่ะ
- เลือกทานคอลลาเจนที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก เช่น คอลลาเจนไดเปปไทด์ (Collagen Dipeptide) เพราะร่างกายสามารถดูดซึม นำไปใช้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
- ทานคอลลาเจนที่มีส่วนผสมของวิตามินซี หรือทานคอลลาเจนร่วมกับวิตามินซี เนื่องจากวิตามินซีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคอลลาเจนให้ดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น
- ควรทานคอลลาเจนขณะท้องว่าง เพราะร่างกายจะดูดซึมได้ทันที ไม่ถูกกรดในกระเพาะทำลาย หรือทานก่อนนอนก็เห็นผลดีมากเช่นกัน เพราะตอนที่เราหลับ ระบบในร่างกายและคอลลาเจนจะทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้ร่างกายนำมาใช้ได้อย่างเต็มที่
กลูต้าไธโอน (Glutathione)
“ถ้าอยากขาวใสต้องกินกลูต้า” เพื่อน ๆ น่าจะเคยได้ยินประโยคนี้อยู่บ่อย ๆ แต่มันคือเรื่องจริงหรือไม่ กินแล้วขาวจริงหรือแค่คำโฆษณา วันนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันค่ะ
กลูต้าไธโอน (Glutathione) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญต่อร่างกาย จัดอยู่ในกลุ่มโปรตีนที่มีกรดอะมิโนเป็นองค์ประกอบ และร่างกายสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเองได้เช่นเดียวกับ คอลลาเจน แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นปริมาณกลูต้าไธโอนในร่างกายก็จะลดลง พบมากที่บริเวณตับและส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
ประโยชน์ของกลูต้าไธโอนมีดังนี้
-
- ทำหน้าที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
ช่วยรักษาสมดุลของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เพื่อให้ร่างกายสามารถกำจัดสิ่งแปลกปลอม เชื้อโรค แบคทีเรีย หรือไวรัส ได้ดียิ่งขึ้น
-
- ปกป้องไม่ให้เนื้อเยื่อถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ
อย่างที่รู้กันว่ากลูต้าไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อถูกทำลาย ป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ ต้านการอักเสบ และการเกิดโรคต่าง ๆ
-
- มีส่วนช่วยในการทำงานของตับเพื่อขับสารพิษออกจากร่างกาย
กลูต้าไธโอนเปรียบเสมือนดีท็อกซ์ ที่ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย เช่น โลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง ละลายในไขมัน และถูกกำจัดออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น ช่วยฟื้นฟูและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตับจากการทานยาสะสมมาเป็นเวลานาน
แล้วกับคำถามที่ว่า กินกลูต้าแล้วจะขาว สรุปว่ามันช่วยให้ขาวขึ้นจริงหรือไม่ ??
ต้องอธิบายเพิ่มเติมว่า อีก 1 หน้าที่หรือสรรพคุณของกลูต้าไธโอนก็คือ ช่วยลดการผลิตเม็ดสีบนผิวหนัง และเปลี่ยนเซลล์ผิวจากเม็ดสีเข้มให้เป็นสีเหลืองหรือแดง ตรงนี้แหละค่ะที่เหมือนเป็นการช่วยให้ผิวขาว กระจ่างใสขึ้นนั่นเอง
นาเด้ คอลลาเจน ชะลอวัยพร้อมผิวสวยสุขภาพดี
สรุปแบบง่าย ๆ ก็คือทั้ง คอลลาเจน และกลูต้า ต่างก็ช่วยบำรุงผิวพรรณทั้งคู่ จะต่างกันตรงที่ คอลลาเจนเน้นช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย บำรุงกระดูก ข้อต่อ ส่วนกลูต้าจะเน้นช่วยป้องกันการเปลี่ยนเม็ดสีของผิว ทำให้ผิวขาวอมชมพู รู้แบบนี้แล้ว เพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาอาหารเสริม 2 ตัวนี้มาลองทาน แต่ไม่รู้จะทานตัวไหนดี ก็คงจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแล้วใช่มั้ยคะ แต่ถ้าใครยังตัดสินใจไม่ได้ หรืออยากได้อาหารเสริมบำรุงผิวที่มีทั้งคอลลาเจนและกลูต้ารวมอยู่ในซองเดียว ต้อง NADE’ Collagen เลยค่ะ
นอกจากจะมีทั้งคอลลาเจนพรีเมียมและกลูต้าแล้ว ยังมีสารสกัดอื่น ๆ ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ และแก้ปัญหาผิวที่กวนใจสาว ๆ ได้อีกด้วย อย่าง NADE’ Marine Collagen สูตรผงชงดื่ม พร้อมสารสกัดถึง 22 ชนิด และยังมีนวัตกรรมช่วยชะลอวัยลึกถึงระดับเซลล์ ที่การันตีโดยรางวัลโนเบล ให้คุณดูอ่อนกว่าวัย หน้าเด็กจนใครก็ต้องทัก
และอีก 1 สูตรขายดีอย่าง NADE’ Collagen Jelly คอลลาเจนรูปแบบเจลลี่ พร้อมทาน ที่ทานง่ายพกพาสะดวกสุด ๆ ใครที่ไม่สะดวกชงกับน้ำเปล่าก็สามารถฉีกซองแล้วทานได้เลย พร้อมสารสกัด 12 ชนิด ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ควบคุมความมันบนใบหน้า ลดการเกิดสิว ฝ้า กระและจุดด่างดำ
เรียกว่าสวย ครบ จบในซองเดียว บำรุงทั้งผิว ผม เล็บ กระดูกและข้อต่อ