fbpx Skip to content

5 วิธี เตรียมสอบ คว้าเกรด A

เตรียมสอบ

อ่านวันนี้สอบพรุ่งนี้มีอยู่จริง! จะอ่านเร็วก็กลัวลืมเลยอ่านก่อนสอบซะเลย ใครเป็นแบบนี้บ้างสารภาพมาดี ๆ วันนี้ Becoplus มีเคล็ดลับเตรียมความพร้อมก่อนสอบมาฝาก ใครที่ใกล้สอบลองเอาเทคนิค เตรียมสอบ นี้ไปปรับใช้กันดูนะ

เตรียมสอบ

5 วิธี เตรียมสอบ คว้า A

ต้องสอบหลายวิชาทำให้อ่านหนังสือไม่ทัน หรืออ่านไปแล้วก็จำไม่ได้ซะงั้น สอบครั้งนี้เรามาเตรียมตัวกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ดีกว่ากับ 5 วิธีเตรียมสอบจะต้องทำยังไงบ้างไปดูกันเลย

1. ทบทวนเนื้อหาทุกวัน
เพื่อไม่ให้เรียนแล้วลืมการทบทวนเนื้อหาจึงเป็นสิ่งสำคัญ หลังเลิกเรียนสละเวลาทบทวนเนื้อหาสักเล็กน้อยค่อย ๆ ทบทวนวันละนิดวันละหน่อยช่วยให้เราเรียนรู้และเข้าใจได้เร็วขึ้นและไม่ต้องเหนื่อยก่อนสอบด้วย

2. วางแผนการอ่านหนังสือและโน้ตเนื้อหาสำคัญ
เวลาเรียนยังต้องมีตารางเรียนเวลาอ่านหนังสือจึงควรมีการวางแผนการอ่านหนังสือ ซึ่งอาจแบ่งตามความยาก-ง่าย หรือตามที่เราสะดวกและสามารถทำได้จริง ระว่างนี้ให้จดโน้ตเนื้อหาสำคัญหรือไฮไลท์เอาไว้ เวลาอ่านหนังสือก่อนสอบก็จะใช้เวลาในการอ่านน้อยลงไม่ต้องเสียเวลาอ่านเนื้อหาทั้งหมด แต่หากใครเคยทำโน้ตแล้วแต่พอย้อนกลับมาอ่านยังไม่เข้าใจลองเคล็ดลับตามนี้

    • อ่านก่อนสรุป : เพื่อให้เห็นภาพรวมหรือแนวทางเนื้อหาทั้งหมดและสามารถเรียบเรียงเนื้อหาที่จะจดโน้ตได้เป็นหมวดหมู่ เพราะอาจมีข้อมูลที่จะต้องเพิ่มเติมภายหลัง หากจด ๆ ไปก่อนเมื่อย้อนกลับมาอ่านอีกครั้งอาจเกิดความสับสนได้
    • เน้นเฉพาะเนื้อหาสำคัญ : การโน้ตเนื้อหาที่มีตัวหนังสือเยอะ ๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับที่เราต้องอ่านในหนังสือ ควรเน้นจดโน้ตเฉพาะส่วนที่สำคัญ และส่วนขยายความสั้น ๆ กระชับ ได้ใจความก็เพียงพอแล้ว
    • สรุปเป็นภาษาของเราเอง : เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำและเข้าใจได้ง่าย อาจใส่สัญลักษณ์หรือตัวย่อเพื่อช่วยให้อ่านได้ง่ายขึ้น และทำให้เนื้อหาไม่เยอะจนเกินไป
    • ใช้สีช่วยจำ : สีสันมีส่วนช่วยในการจดจำ เป็นสิ่งเร้าที่ช่วยกระตุ้นอารมณ์ของมนุษย์ เมื่อเราเจอสิ่งของที่มีสีสันเราจะรู้สึกต่อสิ่งนั้นและจดจำมันได้ดีกว่า ดังนั้นเพิ่มสีสันเข้าไปในโน้ตของเราสักหน่อยนอกจากช่วยกระตุ้นความจำแล้วยังช่วยให้โน้ตของเราน่าอ่านยิ่งขึ้นด้วย

3. จำเป็นภาพ
บางวิชาถ้าต้องจำเป็นตัวหนังสืออาจจะยากไป ลองแปลข้อความไปเป็นรูปภาพจะช่วยให้เราจำได้ง่ายขึ้น เพราะสมองคนเราจะเรียนรู้จากการจำด้วยภาพได้ง่ายกว่า สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจดโน้ต หรือสรุปเนื้อหาก่อนสอบ หรือใช้รูปภาพแทนบางส่วนคำพูดจะช่วยให้จำได้ง่ายขึ้น

4. ซ้อมทำโจทย์
นอกจากการทบทวนบทเรียนแล้วการลองทำโจทย์หรือข้อสอบเก่าก็ช่วยให้เราเข้าใจในเนื้อหามากยิ่งขึ้นเนื่องจากสมองของคนเราจะจดจำได้ดีขึ้น หากได้ทำอะไรที่ซ้ำ ๆ ยิ่งฝึกมากก็จะทำให้เรารู้เทคนิคการทำข้อสอบของแต่ละวิชามากขึ้น รู้จุดอ่อนว่าเนื้อหาตรงไหนที่เรายังไม่เข้าใจ และช่วยฝึกการบริหารเวลา

5. จับกลุ่มติวกับเพื่อน ๆ
แลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อน ๆ ด้วยการจับกลุ่มติวให้กันและกัน นอกจากจะเป็นการทบทวนเนื้อหาไปในตัวแล้ว เรายังได้เนื้อหาเพิ่มเติมจากเพื่อน ๆ อีกด้วย

เตรียมสอบ

ความรู้พร้อม เตรียมสอบ แล้วร่างกายก็ต้องพร้อมด้วย

เพื่อการเตรียมตัวสอบอย่างมีประสิทธิภาพเราจึงต้องให้ความสำคัญกับการนอนพักผ่อนและการทานอาหารที่มีประโยชน์ กำหนดเวลาอ่านหนังสือให้เหมาะสมและเมื่อถึงเวลาพักผ่อนก็ควรพักผ่อน เพราะการฝืนอ่านหนังสือในขณะที่ร่างกายและสมองต้องการพักอาจไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย กลับส่งผลให้ทำให้สมองทำงานหนักและทำให้กระบวนการเรียนรู้ช้าลง ระบบจัดเก็บความทรงจำหรือระบบประสาทจะมีประสิทธิภาพลดลง ดังนั้นควรอ่านหนังสือให้เป็นเวลาและนอนให้เป็นเวลาจะดีที่สุด

และวัยเรียนควรทานอาหารที่มีประโยชน์ที่ช่วยบำรุงสมองเสริมสร้างสมาธิอย่างเช่น ปลา ข้าวกล้อง ไข่ต้ม ผลไม้รสเปรี้ยวตระกูลเบอร์รี ผัก ขนมปังโฮลวีท ถั่วชนิดต่าง ๆ นม แอปเปิ้ล กล้วย โยเกิร์ต หรือแปะก๊วย เป็นต้น เพื่อช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมองให้เต็มประสิทธิภาพ

เตรียมสอบ

Becoplus ตัวช่วยเตรียมสอบ

วัยเรียนอ่านหนังสือหนัก! ไม่มีสมาธิ! นอนน้อย! เครียด! นอนไม่หลับ! ใครกำลังเจอปัญหาเหล่านี้มาเพิ่มพลังสมองและปรับสมดุลร่างกายให้ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Becoplus ที่สกัดจากสารสกัดธรรมชาติล้วนกว่า 11 ชนิด ช่วยบำรุงสมอง เสริมสร้างสมาธิ เสริมประสิทธิภาพการเรียนรู้และจดจำ ผ่อนคลายความเครียด และยังปรับสมดุลการนอนทำให้นอนหลับได้สนิท ช่วยให้สมองและร่างกายได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ขณะหลับ วัยเรียนตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไปสามารถทานได้ ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี ปลอดภัยได้มาตรฐาน อย. มาเตรียมสมองวัยเรียนให้พร้อมอยู่เสมอด้วย Becoplus กันนะคะ

บำรุงสมอง เสริมความจำด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Becoplus (บีโคพลัส)  ตัวช่วยมาบำรุงสมอง เสริมความจำ ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรจากธรรมชาติมากถึง 11 ชนิด

    • “พรมมิ” Bacopa monnieri
      “Bacopa monnieri” หรือที่ใคร ๆ รู้จักกันในชื่อของ พรมมิ สมุนไพรที่มีประวัติการนำมาใช้อย่างยาวนานตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน มีงานวิจัยออกมารองรับถึงสรรพคุณต่าง ๆ อย่างมากมาย ทั้งช่วยในเรื่องของสมาธิ เสริมความจำ ลดการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในสมอง บำรุงระบบประสาทไปจนถึงแก้ร้อนใน
    • แอล-ธีอะนีน เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้ และเป็นสารประกอบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในชาเขียวและชาดำช่วยกระตุ้นการผลิตของคลื่นอัลฟ่า (α- wave) ในสมอง ทำให้สมองมีการปล่อยคลื่นอัลฟ่า (α- wave) มากขึ้น และลดการปล่อยคลื่นเบต้า (β-wave) ลง ซึ่งทำให้สมองเกิดการผ่อนคลาย และลดความเครียด
    • “Tart Cherry Powder”
      – ช่วยลดความเครียด และความซึมเศร้าได้
      – ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
      – ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงขึ้น
      – ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
      – ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสขึ้น
    • “Ginkgo Leaf”
      – ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
      – ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์
      – ช่วยลดความเครียด และความซึมเศร้าได้
      – ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือน
      – อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมสภาพผิว
    • “Lemon Balm”
      – ช่วยให้ผ่อนคลาย
      – ช่วยในการนอนหลับ
      – เสริมสร้างระบบความจำ
      – ปรับสมดุลความดันโลหิต
      – ขจัดความเหนื่อยล้า
    • “Goji Berry”
      Goji Berry หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ เก๋ากี้ สมุนไพรแพทย์แผนจีนโบราณ ที่มีงานวิจัยออกมารองรับถึงสรรพคุณในด้านต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็น superfood เลยก็ว่าได้ โดยเก๋ากี้จะเด่นในเรื่องช่วงบำรุงสายตา ทำให้ดวงตาแจ่มใสขึ้น และประโยชน์ด้านอื่น ๆ อีกมากมาย
    • “Vitamin D”
      – ช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้า
      – เพิ่มความแข็งแรงและทนทานของกล้ามเนื้อ
      – ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน
      – ช่วยชะลอวัยของผิว
      – ป้องกันการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูก
    • “Vitamin B2”
      – ช่วยป้องกันการเกิดไมเกรน
      – ทำให้ผิวหนัง เล็บ เส้นผมมีสุขภาพดี
      – ช่วยบรรเทาอาการอ่อนล้าของดวงตา
      – ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
      – ช่วยในกระบวนการสร้างการเจริญเติบโตและสืบพันธุ์
    • “Vitamin B3”
      – ช่วยเผาผลาญอาหาร ทำให้เกิดพลัง และสร้างไขมันในร่างกาย
      – ช่วยการไหลเวียนของเลือด
      – ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน
      – ลดความดันโลหิต
      – ลดระดับคลอเรสเตอรอล
    • “Vitamin B5”
      – ช่วยเรื่องการนอนหลับ
      – ช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลีย
      – ช่วยผลิตฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย
      – บรรเทาอาการข้ออักเสบ
      – ลดระดับคอเลสเตอรอล
    • “Vitamin B6”
      – ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง
      – ช่วยชะลอวัย
      – ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
      – ป้องกันโรคทางระบบประสาทและโรคผิวหนัง
      – ช่วยให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันได้ดียิ่งขึ้น

 

Becoplus ประโยชน์อัดแน่นใน 1 แคปซูล

ครบเครื่องเรื่องบำรุงสมองและการนอนหลับต้อง Becoplus

บทความที่เกี่ยวข้อง

thThai