ปัญหาของสาวผมยาว ผมหนา คงหนีไม่พ้นเรื่องการเป่าผม อยากให้ ผมแห้ง แต่ไม่อยากเป่าด้วยไดร์หรือใช้ความร้อนบ่อย ๆ เพราะกลัวผมจะแห้งเสีย แต่ถ้าจะปล่อยให้ผมแห้งเองก็คงต้องรอเป็นวัน ๆ หรือเผลอหลับไปทั้ง ๆ ที่ผมยังไม่แห้ง ก็อาจจะทำให้เกิดเชื้อราหรือรังแคได้ง่าย ๆ งั้นเรามาลองดู 6 วิธีที่จะช่วยให้ผมคุณแห้งเร็ว แห้งไวแบบไม่ง้อไดร์กัน จะมีวิธีไหนบ้าง ติดตามในบทความนี้เลย

6 วิธี แค่ทำตาม ผมแห้ง ง่าย ๆ แบบไม่ง้อไดร์

• • ผมแห้ง แค่บีบน้ำออก

-ทำจากหลังสระผมเสร็จแล้ว

-รวบผมแล้วบีบเบา ๆ หรือเขย่าให้น้ำออกมากที่สุด 

-วิธีนี้จะเป็นการทำให้น้ำไม่ค้างอยู่บนเส้นผมมากจนเกิน และทำให้ผมแห้งไวขึ้น

• • ซับน้ำออกโดยใช้ผ้าขนหนู

-ใช้ผ้าขนหนูมาซับเอาน้ำและความชื้นออก 

-เน้นที่รากผม โคนผมด้านใน

-ก้มหัวลง แล้วใช้ผ้าขนหนูขยี้เส้นผมเบา ๆ สลับกับการซับเอาน้ำออก

-เปลี่ยนผ้าขนหนูผืนใหม่ที่แห้งสนิทมาซับอีกครั้ง ก็ช่วยให้เส้นผมแห้งไว้ได้ดียิ่งขึ้น

• • ผ้าขนหนูแบบไมโครไฟเบอร์ ช่วยคุณได้

-ใช้ผ้าขนหนูแบบไมโครไฟเบอร์ในการซับน้ำออก ผ้าชนิดนี้จะดูดซับน้ำได้ดีกว่าผ้าขนหนูทั่วไป

-ไม่ต้องขยี้ผมแรง ๆ แต่ให้ซับไปเรื่อย ๆ

-วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้ผมแห้งเร็วแล้ว ก็ยังช่วยลดผมแห้งแตกปลายจากการเสียดสีของเส้นผมกับผ้าขนหนูแบบปกติได้อีกด้วย 

• • ผมแห้ง ด้วยลมเย็นจากพัดลม

-ใช้พัดลมเป่าผมควบคู่ไปกับการใช้ผ้าขนหนูซับน้ำ

-ก้มหัวเป่ากับพัดลมและเอาผ้าขนหนูซับน้ำ

-เน้นเป่าจากโคนผมด้านใน เพื่อไม่ทำให้เกิดความชื้น ลดการเกิดรังแคและผมร่วง

-ลมจากพัดลมจะช่วยเป่าไล่ให้ความชื้นออกจากเส้นผมได้เร็วขึ้น

• • สางผมด้วยหวีซี่ห่าง

-ระหว่างที่ซับน้ำออกจากเส้นผม ให้ใช้หวีซี่ห่างค่อย ๆ สางผมเบา ๆ จะช่วยให้เส้นผมไม่พันกัน

-หากเป่าผมด้วยพัดผมแล้วใช้หวีซี่ห่าง จะทำให้ลมที่เป่าผมอยู่ ไล่ความชื้นออกจากเส้นผมได้ดีขึ้น และทำให้เส้นผมแห้งเร็วขึ้น

-การใช้หวีซี่ห่าง จะช่วยเพิ่มช่องว่างระหว่างผมของเราให้มากขึ้น ทำให้อากาศหรือลมผ่านได้ดี ผมจึงเลยแห้งเร็วขึ้น

• • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงที่ช่วยให้ ผมแห้ง

-เมื่อผมเริ่มแห้งหมาด ๆ แล้ว สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผมแห้งเร็วขึ้นควบคู่ไปด้วยได้

-ข้อจำกัดของวิธีนี้คือจะค่อนข้างหาซื้อยากและราคาสูง

ตัวช่วยที่บำรุงผิวและบำรุงผมไปพร้อมกัน

วิธีที่จะทำให้ ผมแห้ง แบบไม่ต้องใช้ความร้อน จริง ๆ ก็ไม่ได้มีแค่ 6 วิธีที่เรานำมาบอกต่อกันเท่านั้น แต่ละคนอาจจะมีวิธีหรือทริคอื่น ๆ ที่ปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตนเองอีกหลายวิธี แต่การที่เราไม่ได้ใช้ความร้อนในการทำให้ผมแห้งแล้ว ก็ไม่ได้แปลว่าผมของเราจะไม่เสียนะคะ เพราะการบำรุงและดูแลเส้นผมหลังการสระผมก็สำคัญไม่แพ้กัน ทั้งการบำรุงภายนอก และการบำรุงจากภายใน อย่างการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ที่มีส่วนช่วยบำรุงเส้นผมและทำให้หนังศีรษะแข็งแรง เช่น อาหารประเภทโปรตีน เนื้อ ไข่ ปลา สังกะสี วิตามินบีหรือไบโอติน เป็นต้น

แต่ถ้าใครไม่มีเวลา และอยากดูแลเส้นผมด้วยวิธีง่าย ๆ เราขอแนะนำ NADE’ Collagen Jelly คอลลาเจนรูปแบบเจลลี่ พกพาสะดวก ไม่ต้องชงน้ำให้ยุ่งยาก แค่ฉีกซองแล้วทาน ก็สามารถเติมคอลลาเจนให้ผิวได้ทุกที่ทุกเวลา แต่นอกจากจะช่วยให้ผิวสุขภาพดี กระจ่างใสแล้ว ใน NADE’ Collagen Jelly ยังมีส่วนผสมของ Zinc (ซิงค์) และ Biotin (ไบโอติน) ที่มีส่วนช่วยให้เส้นผมและหนังศีรษะแข็งแรง พร้อมบำรุงเล็บไม่ให้เปราะบางง่ายอีกด้วย

NADE’ Collagen Jelly มาพร้อมกับสารสกัดพรีเมียมมากถึง 12 ชนิด มีปริมาณคอลลาเจนรวม 10,000 มิลลิกรัมต่อซอง บำรุงครบทั้งผิว ผม เล็บ กระดูกและข้อต่อ

• • คอลลาเจนไดเปปไทด์จากปลาน้ำจืด Fish Collagen Dipeptide 

-กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวอิ่มน้ำ ชุ่มชื้น เรียบเนียน 

-ลดการเกิดริ้วรอย 

-ลดความหมองคล้ำจากรังสี UV

• • คอลลาเจนไตรเปปไทด์จากปลาน้ำจืด Fish Collagen Tripeptide

-เสริมสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ให้เติมเต็มริ้วรอยและลดความเหี่ยวย่นของผิวอย่างได้ผล 

-ทำให้ผิวมีความชุ่มชื่น นุ่มเนียนขึ้น แลดูอ่อนเยาว์

• • Zinc

-ช่วยลดอาการอักเสบและป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว

-ควบคุมการผลิตน้ำมันบริเวณต่อมน้ำมันใต้ผิวหนังให้เป็นปกติ

-ช่วยเร่งการสมานแผล

-เพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

-ช่วยการเจริญเติบโตของเส้นผมและเล็บ โดยมีส่วนสำคัญต่อการสร้างเซลล์ใหม่ซ่อมแซมผมและเล็บที่อ่อนแอให้เจริญเติบโตและแข็งแรงมากขึ้น และยังช่วยควบคุมการทำงานของต่อมไขมันบนหนังศีรษะจึงลดโอกาสการหลุดร่วงของเส้นผมได้

• • Vitamin C

–เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

-ช่วยในการสร้างคอลลาเจน 

-ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน

-ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น

• • Biotin

-ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง ลดปัญหาการหลุดร่วงของเส้นผม

–ช่วยป้องกันและบำรุงรักษาเล็บที่แห้งเปราะ ให้แข็งแรงขึ้น

–ช่วยบำรุงผิวหนังให้เปล่งปลั่ง เต่งตึง

• • L-Glutathione

-ส่งผลให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว ทำให้ผิวขาว กระจ่างใสขึ้น

-ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

• • Type II Collagen

–บรรเทาอาการปวดจากโรคข้อเข่าเสื่อม 

-เพิ่มปริมาณน้ำในข้อเข่า

-ช่วยลดอาการปวดข้อและเสริมสุขภาพข้อต่อ

• • Astaxanthin 

-มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ

-ช่วยปกป้องผิวไม่ให้คล้ำเสียจากรังสี UV ลดการเกิดริ้วรอยของผิวซึ่งเกิดจากการทำร้ายของแสงแดด

-ทำให้ไม่เกิดฝ้า กระ (ดีกว่า Vitamin B 100เท่า)

• • สารสกัดจากรากชะเอมเทศ (Licorice Extract)

-ช่วยคืนความกระจ่างใสให้ผิว

-ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยต่อต้านการอักเสบของผิว ส่งผลให้ริ้วรอยและจุดด่างดำแลดูจางลง

• • สารสกัดจากเมลอน (Melon Extract)

-ยับยั้งและป้องกันอนุมูลอิสระ ที่ทำให้เกิดความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย 

-ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินต้นเหตุของผิวหมองคล้ำ

–ช่วยชะลอกระบวนการที่ทำให้เกิดความแก่ ลดริ้วรอย

• • สารสกัดจากฟักข้าว (Gac Extract) 

-ยับยั้งและป้องกันอนุมูลอิสระ ที่ทำให้เกิดความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย 

-ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย ปรับให้ผิวเนียนเรียบ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ สุขภาพดี 

-ช่วยบำรุงสายตา

• • สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Extract) 

-ช่วยลดริ้วรอย ฝ้าและกระให้จางลง

-ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่จะมาทำลายคอลลาเจนอิลาสตินและการผลิตเม็ดสี อันเป็นสาเหตุทำให้ผิวเสื่อมสภาพ และเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร