fbpx Skip to content

เสพติดการเคี้ยวน้ำแข็ง สัญญาณของความเครียดที่คุณอาจไม่รู้ตัว

เสพติดการเคี้ยวน้ำแข็ง-สัญญาณของความเครียดที่คุณอาจไม่รู้ตัว

ใครชอบเคี้ยวน้ำแข็งฟังทางนี้ การทานน้ำแข็งอาจไม่ใช่แค่เรื่องกระหายน้ำแล้ว มีข้อมูลจากคุณหมอที่บอกว่าการเคี้ยวน้ำแข็งอาจมีสาเหตุมาจากความเครียด ใครที่ชอบเคี้ยวน้ำแข็งลองมาเช็คกันว่าคุณมีอาการ “โรคติดน้ำแข็ง” หรือไม่

เสพติดการเคี้ยวน้ำแข็ง-สัญญาณของความเครียดที่คุณอาจไม่รู้ตัว

อาการแบบไหนที่เรียกว่า โรคติดน้ำแข็ง

โรคติดน้ำแข็ง หรือที่เรียกว่า ‘Pagophagia’ เป็นหนึ่งในรูปแบบของโรค Pica หรือโรคเสพติดการรับประทานของที่ไม่ใช่อาหารหรือไม่มีคุณค่าทางสารอาหาร โดยโรคนี้ผู้ป่วยจะมีพฤติกรรมที่อยากเคี้ยวน้ำแข็งอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถหยุดการเคี้ยวได้ (มีอาการต่อเนื่องมากกว่า 1 เดือน) แม้ว่าจะดื่มน้ำที่เย็นอยู่แล้ว แต่ก็ต้องเคี้ยวน้ำแข็งด้วยเสมอ ซึ่งโรคนี้อาจเกิดจากความเครียด ความผิดปกติทางจิตที่มักเกิดร่วมกันกับความผิดปกติทางจิตอื่น ๆ

เสพติดการเคี้ยวน้ำแข็ง-สัญญาณของความเครียดที่คุณอาจไม่รู้ตัว

สาเหตุของการเป็นโรคติดน้ำแข็ง

สาเหตุของการเกิดโรคติดน้ำแข็งมาจากความผิดปกติทางด้านอารมณ์ ความเครียดสะสม พฤติกรรมย้ำคิด-ย้ำทำ (OCD) จนไปสู่อาการขบเคี้ยวสิ่งต่าง ๆ เพื่อผ่อนคลาย แต่บางงานวิจัยก็พบว่าอาจเกี่ยวข้องกับร่างกายที่ขาดธาตุเหล็กส่งผลให้มีอาการเฉื่อยชา จึงต้องการเคี้ยวน้ำแข็งเพื่อช่วยให้ร่างกายตื่นตัว

เสพติดการเคี้ยวน้ำแข็ง-สัญญาณของความเครียดที่คุณอาจไม่รู้ตัว

อาการที่มักพบในผู้ป่วยโรคติดน้ำแข็ง

    • ชอบทานน้ำแข็งเป็นประจำ อยากทานตลอดเวลา มีอาการต่อเนื่องมามากกว่า 1 เดือน
    • ร่างกายรู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง วิงเวียนศีรษะ
    • ผิวเริ่มซีด ใบหน้า ลิ้น บวม
    • เล็บเปราะบาง
    • เจ็บหน้าอก หายใจถี่ขึ้น
    • มือ และเท้ารู้สึกชา อาจอาการตะคริวร่วมด้วย

เสพติดการเคี้ยวน้ำแข็ง-สัญญาณของความเครียดที่คุณอาจไม่รู้ตัว

เป็นโรคติดน้ำแข็งไปแล้ว ต้องดูแลตัวเองอย่างไร

    • ลดปริมาณการเคี้ยวน้ำแข็งลง
    • เปลี่ยนจากการเคี้ยวน้ำแข็งมาเป็นการดื่มน้ำเย็น
    • เลือกทานน้ำแข็งก้อนเล็ก และเปลี่ยนจากการเคี้ยวมาเป็นการอมน้ำแข็งแทน
    • หากอาการไม่ดีขึ้นให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสม เพราะอาการดังกล่าวอาจจะเป็นสัญญาณของภาวะผิดปกติหรือโรคบางอย่าง

เสพติดการเคี้ยวน้ำแข็ง-สัญญาณของความเครียดที่คุณอาจไม่รู้ตัว

ทานอาหารที่มีประโยชน์ช่วยรักษาโรคติดน้ำแข็งได้

นอกจากวิธีการดูแลตัวเองแล้ว การทานอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุก็ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้มีสุขภาพดีขึ้นได้

    • ผักใบเขียว เช่น บร็อคโคลี่
    • ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว หรือผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม กีวี่ สตรอว์เบอร์รี่ ฝรั่ง มะขามป้อม เป็นต้น
    • เนื้อสัตว์ หอยนางรม หอยเชลล์
    • ธัญพืชต่าง ๆ เช่น ถั่วเหลือง ถั่วฝักยาว

เสพติดการเคี้ยวน้ำแข็ง-สัญญาณของความเครียดที่คุณอาจไม่รู้ตัว

ลดการเกิดอาการเครียดหนึ่งในสาเหตุของการเกิดโรคติดน้ำแข็งด้วย Becoplus

อาการเครียดนอกจากจะนำไปสู่การเกิดโรคต่าง ๆ แล้ว ยังทำให้สุขภาพโดยร่วมนั้นแย่ไปด้วย เช่น ก่อให้เกิดอาการนอนไม่หลับ เกิดอาการซึมเศร้า และยังเป็นหนึ่งสาเหตุของโรคติดน้ำแข็ง ซึ่งสามารถป้องกันการเกิดความเครียดและส่งเสริมให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Becoplus ที่รวมสารสกัดจากธรรมชาติล้วน ๆ กว่า 11 ชนิด ที่ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ช่วยให้ผ่อนคลายความเครียด และยังช่วยปรับสมดุลการนอน ประโยชน์อัดแน่นใน 1 แคปซูล

Becoplus สารสกัดจากสมุนไพรและธรรมชาติ 11 ชนิดประโยชน์อัดแน่นเต็มขวด

5 ประโยชน์ “พรมมิ” Bacopa monnieri
-บำรุงสมอง ฟื้นฟูความจำ
-เพิ่มสมาธิ
-ป้องกันอัลไซเมอร์
-ลดอาการซึมเศร้า คลายกังวล ส่งผลให้นอนหลับง่ายขึ้น
-ช่วยต้านอนุมูลอิสระ

5 ประโยชน์ “L-Theanine”
-ทำให้ระบบประสาทและสมองผ่อนคลาย
-ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้นและหลับลึกขึ้น
-ลดสภาวะความเครียด
-ส่งเสริมการเรียนรู้และความทรงจำ
-ช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น

5 ประโยชน์ “Tart Cherry Powder”
-ช่วยลดความเครียด และความซึมเศร้าได้
-ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
-ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงขึ้น
-ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
-ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสขึ้น
-บำรุงสมอง

5 ประโยชน์ “Ginkgo Leaf”
-ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
-ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์
-ช่วยลดความเครียด และความซึมเศร้าได้
-ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือน
-อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมสภาพผิว

5 ประโยชน์ “Lemon Balm”
-ช่วยให้ผ่อนคลาย
-ช่วยในการนอนหลับ
-เสริมสร้างระบบความจำ
-ปรับสมดุลความดันโลหิต
-ขจัดความเหนื่อยล้า

5 ประโยชน์ “Goji Berry”
-ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
-ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
-ช่วยบำรุงสายตา
-ช่วยให้มีความจำดี
-ช่วยลดน้ำหนัก โดยเสริมการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงานแทนไขมัน

5 ประโยชน์ “Vitamin D”
-ช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้า
-เพิ่มความแข็งแรงและทนทานของกล้ามเนื้อ
-ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน
-ช่วยชะลอวัยของผิว
-ป้องกันการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูก

5 ประโยชน์ “Vitamin B2”
-ช่วยป้องกันการเกิดไมเกรน
-ทำให้ผิวหนัง เล็บ เส้นผมมีสุขภาพดี
-ช่วยบรรเทาอาการอ่อนล้าของดวงตา
-ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
-ช่วยในกระบวนการสร้างการเจริญเติบโตและสืบพันธุ์

5 ประโยชน์ “Vitamin B3”
-ช่วยเผาผลาญอาหาร ทำให้เกิดพลัง และสร้างไขมันในร่างกาย
-ช่วยการไหลเวียนของเลือด
-ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน
-ลดความดันโลหิต
-ลดระดับคลอเรสเตอรอล

5 ประโยชน์ “Vitamin B5”
-ช่วยเรื่องการนอนหลับ
-ช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลีย
-ช่วยผลิตฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย
-บรรเทาอาการข้ออักเสบ
-ลดระดับคอเลสเตอรอล

5 ประโยชน์ “Vitamin B6”
-ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง
-ช่วยชะลอวัย
-ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
-ป้องกันโรคทางระบบประสาทและโรคผิวหนัง
-ช่วยให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันได้ดียิ่งขึ้น
-ช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสารผ่อนคลาย

ครบเครื่องเรื่องบำรุงสมองต้อง Becoplus

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

thThai