มีนัดสำคัญทีไร ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ทุกที เพื่อน ๆ เคยเป็นกันไหมคะ ไม่ว่าจะมีนัดไปเที่ยว ออกเดท สัมภาษณ์งาน หรือเป็นวันสำคัญที่สุดของเราอย่างวันแต่งงาน ก็จะมีอาการนอนไม่หลับ กระสับกระส่ายเพราะตื่นเต้น กังวล หรือดีใจปะปนกันไป ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่เป็นกันได้ทุกคน ถ้าเราสามารถควบคุมอาการตื่นเต้นและเข้านอนได้ตามเวลาปกติก็เป็นเรื่องดีไปค่ะ เราก็จะตื่นมาด้วยความสดใส ไม่ง่วงนอนในวันรุ่งขึ้นได้ แต่ถ้าคุณไม่สามารถควบคุมมันได้ล่ะคะ ไม่สามารถนอนหลับได้ตามเวลาปกติ หรือตาสว่างจนถึงเช้า อันนี้น่าจะไม่ดีแน่ ๆ อาจจะทำให้เราดูโทรม ไม่มีแรง หรือง่วงนอนตลอดเวลาได้

ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ เกิดจากอะไร

อาการตื่นเต้น เกิดจากการที่สมองส่วน Amygdala ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมสัญชาตญาณการอยู่รอด ถูกกระตุ้นจากสิ่งเร้ารอบตัว จากสถานการณ์หรือเหตุการณ์บางอย่าง ทำให้เกิดความกลัวและความตื่นเต้นขึ้น หรือที่เรียกว่าสมองตื่นตัว และอาการตื่นตัวนั้นจะยังอยู่ทั้งวันจนถึงช่วงเวลาที่เราต้องเข้านอน ก็ยังไม่สามารถเอาความรู้สึกนั้นออกไปจากหัวได้ และสมองยังอาจตื่นตัวจากสิ่งที่เราทำก่อนนอนได้ เช่นการเล่นเกม การได้คุยกับคนที่ชอบ หรือการดูซีรี่ส์เกาหลีสุดฟิน เรื่องเหล่านี้ก็ทำให้เรานอนไม่หลับได้เช่นกัน

สำหรับคนที่มีอาการตื่นเต้นแต่ก็ยังสามารถนอนหลับได้ถือเป็นเรื่องดีนะคะ เพราะหากคุณมีอาการตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ และตาสว่างจนถึงเช้า นอกจากจะทำให้คุณปวดหัว มึนงง และไม่สดชื่นแล้ว อาจทำให้เสียสุขภาพได้ด้วย เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มต้นที่การนอน ถ้าการนอนของคุณมีคุณภาพ ร่างกายก็จะหลั่งสารที่มาช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอภายในได้อย่างปกติค่ะ

5 วิธีแก้อาการ ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ

หากคุณตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ลองมาดู 5 วิธีที่จะช่วยให้คุณนอนหลับได้ง่ายแม้ในวันที่ตื่นเต้นกันค่ะ

• • ทำตัวตามปกติ

รู้นะว่าคุณกำลังตื่นเต้นอยู่ แต่เราอยากให้คุณทำตัวตามปกติที่เคยทำอยู่แล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกิจวัตรประจำวันที่เคยทำเป็นประจำ หรือเวลาการเข้านอน เพื่อไม่ให้ร่างกายรู้สึกกดดันมากเกินไป เช่น ถ้าปกติคุณเป็นคนนอนดึก เข้านอนตอน 5 ทุ่ม ในวันที่มีงานสำคัญคุณก็สามารถนอนเวลาปกติของคุณได้เลย ไม่ต้องพยายามเข้านอนเร็ว หรือเข้านอนก่อนเวลา เพราะความตื่นเต้น หรือกังวลใจก็จะทำให้คุณนอนไม่หลับอยู่ดี

• • ห้องนอนต้องมืดสนิท

ทุกคนน่าจะทราบดีอยู่แล้วว่าการนอนในห้องนอนที่มืดสนิท ไม่มีแสงเข้ามารบกวนจะทำให้เรานอนหลับได้ดีขึ้น และยังส่งผลให้ความตื่นเต้นลดลง เนื่องจากดวงตาไม่ถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเร้า และห้องที่มืดสนิทยังทำให้ร่างกายหลั่งสารเมลาโทนินออกมา ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและหลับสบายขึ้นด้วยค่ะ

และการนอนในห้องที่อุณหภูมิเหมาะสมกับร่างกายเรา หรือความชอบของเรา ไม่ร้อนไป ไม่หนาวไป ก็ยังทำให้เรานอนหลับได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกัน รู้แบบนี้แล้ว คืนนี้มาลองปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม ห่มผ้าสบาย ๆ และปิดไฟในห้องให้มืดสนิทกันเถอะค่ะ

• • ธรรมชาติบำบัด

หลายคนพอได้ยินคำว่าบำบัดอาจจะทำให้นึกถึงการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ในส่วนของธรรมชาติบำบัดนั้น คุณสามารถทำที่ไหนก็ได้ แม้แต่ในห้องนอนของคุณ และไม่ยุ่งยากด้วยค่ะ

• กลิ่นบำบัด : กลิ่นหอมจะช่วยให้คุณผ่อนคลาย และนอนหลับได้ง่ายขึ้น เพื่อน ๆ อาจลองหาน้ำมันหอมระเหย หรือเทียนหอมมาจุดที่ห้อง หรือใช้ครีมอาบน้ำ ทาโลชั่นที่มีกลิ่นหอมก่อนนอน โดยเฉพาะกลิ่นลาเวนเดอร์ที่มีงานวิจัยออกมาว่าเป็นกลิ่นที่ช่วยคลายความกังวล ลดความตื่นเต้น และทำให้หลับลึกขึ้น
• เสียงบำบัด : ก่อนเข้านอน แนะนำให้เปิดเพลงบรรเลงแบบช้าที่ไม่มีคำร้อง จังหวะอยู่ที่ประมาณ 60-70 bpm จะช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจช้าลงตามจังหวะเพลงได้
• การดื่มชา : จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย คลายกังวลได้ โดยชาที่เราอยากจะแนะนำให้ดื่มก่อนนอน คือชาคาโมมาลย์ค่ะ สามารถผสมน้ำผึ้งได้เล็กน้อย เพื่อเพิ่มรสชาติและทำให้ทานง่ายขึ้นค่ะ
• ควบคุมการหายใจ : กำหนดลมหายใจเพื่อลดอาการตื่นเต้น โดยการหายใจเข้าลึก ๆ กลั้นหายใจไว้ 5 วินาที แล้วค่อยผ่อนลมหายใจออก ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เพื่อลดอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้เราผ่อนคลายและนอนหลับได้ง่ายขึ้นค่ะ

• • ปิดโทรศัพท์ งดเล่นโซเชียล

แสงสีฟ้าจากหน้าจอต่าง ๆ จะกระตุ้นให้เราตื่นตัว และนอนหลับยากกว่าเดิม จึงควรงดการเล่นโซเชียล หรือการใช้โทรศัพท์ก่อนเข้านอน และเพื่อไม่ให้มีเรื่องราวใด ๆ มากวนใจคุณจนทำให้มีความกังวลและนอนไม่หลับมากกว่าเดิม ควรปล่อยวาง และปล่อยใจสบาย ๆ ให้พร้อมกับการเข้านอน

• • วิตามินช่วยนอนหลับ

วิธีสุดท้ายที่จะช่วยลดอาการตื่นเต้นจนนอนไม่หลับได้ นั่นก็คือการทานวิตามินหรืออาหารเสริมที่ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้น แต่เราไม่แนะนำให้ทานยานอนหลับนะคะ เพราะจะส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้

แนะนำให้ทานอาหารเสริมที่เป็นสมุนไพร หรือสารสกัดจากธรรมชาติ อย่างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบีโคพลัส (Becoplus) ที่จะช่วยคลายความกังวล ลดความเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุของการนอนไม่หลับ ช่วยปรับสมดุลการนอน ทำให้นอนหลับง่ายขึ้น หลับลึกและหลับดีขึ้น แถมยังสกัดจากสมุนไพรและสารธรรมชาติถึง 11 ชนิด ไม่มีสารเคมีเจือปน มั่นใจได้ในคุณภาพ และความปลอดภัย

อีก 1 สรรพคุณเด่นของบีโคพลัสคือช่วยบำรุงสมองของทุกวัย ช่วยเสริมสร้างระบบความจำ เพิ่มสมาธิ ป้องกันอาการหลงลืมซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงวัยได้

ทานได้ทั้งวัยเรียน วัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงวัย ตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป เพียงวันละ 1 แคปซูลก่อนนอน หลับลึกหลับดีกว่าที่เคยด้วยบีโคพลัส