fbpx Skip to content

ทำความรู้จัก ฝันกลางวัน โรคของคนเสพติดการฝัน

ฝันกลางวัน

ฝันกลางวัน ฝันที่ไม่ได้หมายถึงการเพ้อฝันเกินความเป็นจริง แต่เป็นความฝันที่เกิดขึ้นในขณะที่เราไม่ได้หลับและถูกปรุงแต่งขึ้นจากตัวเราเอง มาทำความรู้จักกับโรคฝันกลางวัน หรือ Maladaptive daydreaming

ปกติแล้วเราจะฝันก็ต่อเมื่อเราได้นอนหลับใช่ไหมคะ แต่โรคฝันกลางวันเป็นฝันที่เกิดขึ้นในขณะที่เราไม่ได้หลับ พูดง่าย ๆ ให้พอนึกภาพออกก็คือการที่เรานึกถึงสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นแล้วจินตนาการต่อไปเรื่อย ๆ แบบไม่รู้จบและไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เช่น หากเราได้เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลกจะเป็นอย่างไรนะ หรือถ้าเราได้ตกแต่งบ้านใหม่จะซื้อเฟอร์นิเจอร์อะไรมาวางตรงไหนดี นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่า ฝันกลางวัน นั่นเอง

ฝันกลางวัน

มารู้จักโรค ฝันกลางวัน

โรคฝันกลางวัน หรือ Maladaptive daydreaming คือภาวะที่เราสร้างเรื่องราวหรือภาพเสมือนขึ้นมาในจินตนาการ เป็นภาพชัดเจนราวกับเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง เกิดขึ้นในขณะที่เราไม่ได้หลับอยู่และรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในความคิดแต่ไม่สามารถดึงตัวเองกลับจากความนึกคิดหรือจินตนาการในขณะนั้นได้ เกิดเป็นการหมกหมุ่นอยู่ในโลกจินตนาการ ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง

ซึ่งโรคฝันกลางวันมักเกิดขึ้นหลังจากการเสพเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านบทสนทนา หรือสื่อต่าง ๆ อย่างรูปภาพหรือภาพยนตร์ ถึงแม้โรคฝันกลางวันจะไม่ได้เป็นโรคทางจิตเวช แต่มีการสันนิษฐานว่าการเป็นโรคทางจิตอื่น ๆ เช่น โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคสมาธิสั้น (ADHD) หรือโรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive Compulsive Disorder) มีส่วนทำให้เกิดอาการของโรคฝันกลางวันได้

รวมถึงประสบการณ์ในวัยเด็กที่เลวร้าย เช่น การถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ การฝันกลางวันจึงเป็นการตอบสนองต่อความเจ็บปวดเพื่อหนีจากโลกที่โหดร้าย เข้าไปอยู่ในโลกแห่งความฝันที่รู้สึกปลอดภัยกว่า นอกจากนี้โรคฝันกลางวันอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น การกลัวการเข้าสังคม แก้เบื่อหรือแก้เหงา หรือทำในสิ่งที่ต้องการที่ไม่สามารถทำได้ในชีวิตจริง

ฝันกลางวัน
คุณมีความเสี่ยงเป็นโรคฝันกลางวันหรือไม่

เราอาจเคยคิดอะไรเพลิน ๆ เรื่อยเปื่อยแต่เอ๊ะแบบนี้เข้าข่ายเสี่ยงเป็นโรคฝันกลางวันหรือเปล่า มาลองเช็คกัน

  • เกิดอาการเหม่อลอยที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง รุนแรง และยาวนานบางครั้งอาจยาวนานหลายชั่วโม
  • จินตนาการเห็นภาพอย่างชัดเจนคล้ายกับการดูภาพยนตร์ โดยอาจเห็นภาพตัวละคร ฉาก โครงเรื่อง และรายละเอียดอื่น ๆ
  • เกิดอาการฝันกลางวันเมื่อถูกกระตุ้นจากเหตุการณ์ในชีวิตประจำวันหรือสิ่งกระตุ้นอื่น ๆ
  • หมกหมุ่นอยู่กับการฝันกลางวัน และอยากให้ความฝันเกิดขึ้นต่อแม้จะมีสิ่งที่รบกวนหรือดึงตัวเองออกจากการฝันกลางวัน
  • มีพฤติกรรมพูดคนเดียว แสดงสีหน้า และทำอะไรซ้ำ ๆ ขณะฝันกลางวันโดยไม่รู้ตัว เช่น การเดินวนไปวนมา การโยนของในมือไปมา หรือหมุนสิ่งที่อยู่ในมือ
  • ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างขณะที่ฝันกลางวัน
  • ไม่มีสามาธิในการจดจ่อกับการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
  • มีปัญหาด้านการนอนหลับ

ฝันกลางวัน

เสี่ยงเป็นโรคฝันกลางวันต้องปรับพฤติกรรมอย่างไร

  • ฝึกสมาธิและสติ
  • จดบันทึกความรู้สึกและอาการเพื่อป้องกันการหลุดเข้าไปในห้วงของจินตนาการ
    โดยเป็นการกลั่นกรองสิ่งในหัวออกมาเป็นตัวหนังสือและให้โฟกัสกับการถ่ายทอดลงบนกระดาษมากกว่าการจินตนาการเป็นภาพ
  • หลีกเลี่ยงสิ่งเร้าและปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการ เช่น หากมีอาการฝันกลางวันหลังจากสนทนาเรื่อง ๆ หนึ่ง ให้หลีกเลี่ยงการดูหรือพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
  • นอนหลับให้เพียงพอ เข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา งดเสพสื่อที่รุนแรงก่อนเข้านอนเปลี่ยนเป็นทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ
  • เพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายด้วยการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่เกินวันละ 400 มิลลิกรัม และงดดื่มก่อนเข้านอนอย่างน้อย 6 ชั่วโมง เพราะอาจส่งผลต่อการนอนหลับ
  • หากิจกรรมอื่น ๆ ทำเพื่อไม่ให้สมองเกิดการคิดหรือจินตนาการในช่วงที่ว่างจนทำให้หลุดเข้าไปในโลกแห่งความฝัน
  • พูดคุยบอกเล่าอาการกับคนที่ไว้ใจซึ่งจะช่วยให้รู้สึกสบายใจยิ่งขึ้น และทำให้มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างมากขึ้น
  • ปรึกษาจิตแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป

ปัจจัยของการมีสุขภาพที่ดี เริ่มต้นที่ตัวคุณเอง

อย่าลืมใส่ใจตัวเองและคนรอบข้างเพื่อให้ห่างไกลจากความเสี่ยงการเป็นโรคฝันกลางวัน โดยเริ่มจากการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญต้องไม่เครียด เพราะความเครียดเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดอาการวิตกกังวลหรือซึมเศร้าที่อาจนำไปสู่การเป็นโรคฝันกลางวันได้

และให้ Becoplus เป็นผู้ช่วยผ่อนคลายความเครียดพร้อมปรับสมดุลการนอนหลับให้คุณ ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติอย่าง L-Theanine, Tart Cherry Powder, Ginkgo Leaf, Lemon Balm, Vitamin D และ Vitamin B6 ช่วยผ่อนคลายความเครียด บำรุงระบบประสาทและสมอง ช่วยให้สมองผ่อนคลาย จึงช่วยลดปัญหาการนอนไม่หลับและภาวะซึมเศร้าที่มีสาเหตุมาจากความเครียด รวมถึงลดโอกาสการเกิดโรคฝันกลางวันอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Becoplus (บีโคพลัส) ตัวช่วยเรื่องนอนหลับ บำรุงสมอง ผ่อนคลายความเครียด เสริมความจำและเสริมสร้างสมาธิ ป้องกันอัลไซเมอร์ ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรจากธรรมชาติมากถึง 11 ชนิด

  • “พรมมิ” Bacopa monnieri
    – บำรุงสมอง ฟื้นฟูความจำ
    – เพิ่มสมาธิ
    – ป้องกันอัลไซเมอร์
    – ลดอาการซึมเศร้า คลายกังวล ส่งผลให้นอนหลับง่ายขึ้น
    – ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
  • “Tart Cherry Powder”
    – ช่วยลดความเครียด และความซึมเศร้าได้
    – ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
    – ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงขึ้น
    – ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
    – ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสขึ้น
  • 5 ประโยชน์ “L-Theanine”
    – ทำให้ระบบประสาทและสมองผ่อนคลาย
    – ช่วยให้นอนหลับง่ายขึ้นและหลับลึกขึ้น
    – ลดสภาวะความเครียด
    – ส่งเสริมการเรียนรู้และความทรงจำ
    – ช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น
  • “Ginkgo Leaf”
    – ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
    – ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์
    – ช่วยลดความเครียด และความซึมเศร้าได้
    – ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือน
    – อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมสภาพผิว
  • “Lemon Balm”
    – ช่วยให้ผ่อนคลาย
    – ช่วยในการนอนหลับ
    – เสริมสร้างระบบความจำ
    – ปรับสมดุลความดันโลหิต
    – ขจัดความเหนื่อยล้า
  • “Goji Berry”
    – ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
    – ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
    – ช่วยบำรุงสายตา
    – ช่วยให้มีความจำดี
    – ช่วยลดน้ำหนัก โดยเสริมการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงานแทนไขมัน
  • “Vitamin D”
    – ช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้า
    – เพิ่มความแข็งแรงและทนทานของกล้ามเนื้อ
    – ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน
    – ช่วยชะลอวัยของผิว
    – ป้องกันการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูก
  • “Vitamin B2”
    – ช่วยป้องกันการเกิดไมเกรน
    – ทำให้ผิวหนัง เล็บ เส้นผมมีสุขภาพดี
    – ช่วยบรรเทาอาการอ่อนล้าของดวงตา
    – ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
    – ช่วยในกระบวนการสร้างการเจริญเติบโตและสืบพันธุ์
  • “Vitamin B3”
    – ช่วยเผาผลาญอาหาร ทำให้เกิดพลัง และสร้างไขมันในร่างกาย
    – ช่วยการไหลเวียนของเลือด
    – ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน
    – ลดความดันโลหิต
    – ลดระดับคลอเรสเตอรอล
  • “Vitamin B5”
    – ช่วยเรื่องการนอนหลับ
    – ช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลีย
    – ช่วยผลิตฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย
    – บรรเทาอาการข้ออักเสบ
    – ลดระดับคอเลสเตอรอล
  • “Vitamin B6”
    – ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง
    – ช่วยชะลอวัย
    – ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
    – ป้องกันโรคทางระบบประสาทและโรคผิวหนัง
    – ช่วยให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันได้ดียิ่งขึ้น

ครบเครื่องเรื่องบำรุงสมองและการนอนหลับต้อง Becoplus

ขอบคุณข้อมูลจาก pobpad

บทความที่เกี่ยวข้อง