fbpx Skip to content

วัยรุ่นสร้างตัว กับปัญหา ปวดหัวไมเกรน

ปวดหัวไมเกรน

ความเครียดสะสมจากการเรียนและการทำงาน ความเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย หรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้เกิดโรคภัยต่าง ๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับสมองและระบบประสาท และถ้าพูดถึงปัญหาที่วัยรุ่นหรือคนวัยทำงานในปัจจุบันต้องเจอ แน่นอนว่า ปวดหัวไมเกรน จะต้องเป็น 1 ในคำตอบของใครหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน

เพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังสงสัยอยู่ว่า อาการปวดหัวที่เป็นอยู่จะเป็นเพียงการปวดหัวธรรมดาทั่วไป หรือเป็นอาการของไมเกรนกันแน่ มาลองหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้ได้เลยค่ะ

ปวดหัวธรรมดาหรือ ปวดหัวไมเกรน กันแน่

เคยสงสัยกันหรือไม่ ว่าอาการปวดหัวที่เราเป็น ๆ หาย ๆ อยู่นั้น ความจริงมันคืออาการปวดหัวธรรมดาทั่วไป หรือคืออาการของคนที่เป็นไมเกรนกันแน่ มาทำความรู้จักกับอาการปวดหัวแต่ละแบบกันก่อนดีกว่าค่ะ

ปวดหัวไมเกรน

ถ้าคุณมีอาการ เช่น ปวดบีบ รัด ตึง บริเวณขมับทั้ง 2 ข้าง หรือปวดข้างใดข้างหนึ่งมากกว่า อาจมีการปวดร้าวลงมาที่บริเวณท้ายทอย หน้าผากหรือกระบอกตา และเมื่อทานยาแก้ปวดก็สามารถบรรเทาอาการให้เบาบางลงได้ นั้นแปลว่าคุณปวดหัวธรรมดา ซึ่งอาจเกิดจากความเครียด การใช้สายตามากเกินไปหรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ

แต่สำหรับ ปวดหัวไมเกรน (Migraine) จะเป็นความผิดปกติของระดับสารเคมีในสมอง ทำให้หลอดเลือดในเยื่อหุ้มสมองมีการบีบและคลายตัวมากกว่าปกติ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหัวตุ๊บ ๆ หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียน แพ้แสง จากการที่ก้านสมองถูกกระตุ้น โดยพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย อายุตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป และพบมากในช่วงวัยรุ่นมากกว่าผู้สูงวัย

ไมเกรน อาการเป็นอย่างไร

โดยอาการของแต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป ดังนี้

    • ปวดหัวตุ๊บ ๆ บริเวณขมับจนถึงบริเวณกระบอกตาหรือท้ายทอย อาจปวดหัวข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้าง
    • มีอาการปวดหัวในระดับกลางถึงมาก ติดต่อกัน 2-4 ชั่วโมง หรือในบางรายอาจเป็นติดต่อกัน 2-3 วัน
    • คลื่นไส้อาเจียน
    • มีอาการแพ้แสง
    • มีอาการเห็นแสงไฟสีขาว ๆ มีขอบหยึกหยัก เป็นสัญญาณเตือนก่อนที่จะเริ่มปวดหัว

ปัจจัยอะไรบ้างที่กระตุ้นให้เกิดไมเกรน

ปัจจัยกระตุ้นไมเกรน

ปัจจุบันยังไม่มีการยืนยันที่แน่ชัดว่าสาเหตุที่ทำให้คุณปวดหัวไมเกรนคืออะไรกันแน่ แต่ปัจจัยเบื้องต้นที่สามารถกระตุ้นให้เกิดไมเกรนได้นั้นมีหลายอย่าง จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

    • ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือการอดนอน
    • สภาพแวดล้อมที่ไม่ดี เช่น อยู่ในที่ ๆ มีแสงแดดจ้าหรือเจอแสงแฟลชมากเกินไป สถานที่ที่มีเสียงดัง มีกลิ่นที่รุนแรง หรือเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศแบบฉับพลัน ร้อน ฝนหรือหนาวทันที
    • การออกกำลังกายที่หนักเกินไป
    • การสูบบุหรี่จัด
    • ออฟฟิศซินโดรม
    • การรับประทานอาหารบางชนิดที่กระตุ้นการเกิดไมเกรน เช่น ชีส แอลกอฮอล์ ผงชูรส และคาเฟอีน
    • ช่วงมีประจำเดือนของเพศหญิง
    • ช่วงเวลาหลังจากคลอดบุตร

ปวดหัวไมเกรน รักษาอย่างไร

ใครที่มีอาการปวดหัวไมเกรน และกำลังลังเลอยู่ว่าจะไปรักษาดีหรือไม่ ถึงแม้ว่าไมเกรนจะไม่ได้เป็นอันตรายต่อร่างกายมาก แต่ก็ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอยู่ไม่น้อย ทางทีดีควรหาวิธีรักษาหรือเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อไม่ให้อาการรุนแรงมากจนเกินไป

รักษาไมเกรน

มาดูวิธีรักษาเบื้องต้นที่เรานำมาฝากกัน

    • ทานยาป้องกันไมเกรนภายใต้การดูแลของแพทย์ เช่น กลุ่มยาต้านอาการซึมเศร้า กลุ่มยากันชัก และกลุ่มยาลดความดัน เป็นต้น
    • ทำกิจกรรมที่ชอบหรือช่วยให้ผ่อนคลาย
    • หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดไมเกรน
    • ประคบเย็นบริเวณศีรษะ
    • ปรับพฤติกรรมการนอน และการรับประทานอาหาร
    • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

บรรเทาอาการไมเกรน ด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสมุนไพร

ปวดหัวไมเกรน

เมื่อเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดไมเกรนแล้ว แต่ก็อย่านิ่งนอนใจไปนะเพื่อน ๆ เพราะสภาพแวดล้อมหรือการใช้ชีวิตในปัจจุบันมักทำให้เกิดความเครียดได้ง่าย ๆ ทั้งการเรียนและการทำงาน อาจทำให้เกิดอาการเครียดแบบไม่รู้ตัว การทานยาเพื่อลดความเครียด ก็เป็น 1 ในวิธีที่ใครหลาย ๆ คนทำกัน แต่จะดีกว่าไหมถ้าสิ่งที่นำเข้าร่างกายของเพื่อน ๆ เป็นสมุนไพรแทนสารเคมี อย่างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบีโคพลัส (Becoplus) ที่สกัดจากธรรมชาติและสมุนไพรล้วน มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง เสริมความจำ เพิ่มสมาธิ มีสารที่ช่วยคลายความเครียดและความกังวล ส่งผลให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น หลับลึก หลับสนิทกว่าที่เคย เพียงวันละ 1-2 แคปซูล ก่อนนอน

  • ประโยชน์ที่ได้รับ
    • บำรุงระบบประสาทและสมอง
    • ช่วยให้หลับสนิทยิ่งขึ้น หลับลึก หลับง่ายกว่าที่เคย
    • ป้องกันการเกิดอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ
    • เสริมความจำ บำรุงสมองขณะนอนหลับ เพิ่มประสิทธิภาพการจดจำให้ดียิ่งขึ้น
    • เสริมสร้างสมาธิ
    • ผ่อนคลายความเครียด
    • ช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้า
    • ช่วยบำรุงให้ร่างการแข็งแรง
    • ลดอาการปวดไมเกรน
    • ลดอาการปวดข้ออักเสบ
  • บีโคพลัสเหมาะสำหรับ
    • ชาย/หญิง 12 ปีขึ้นไป และผู้สูงวัย
    • ผู้ที่มองหาตัวช่วยในการนอนหลับและป้องกันอาการอัลไซเมอร์
    • ผู้ที่ต้องการอาหารเสริมที่ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
    • ผู้ที่ต้องการบรรเทาอาการโรคเก๊าท์และข้ออักเสบ
    • ผู้ที่ต้องการลดปริมาณน้ำตาลในเลือด
    • วัยเรียนใช้สมองหนัก ใช้ความจำเยอะ และต้องการนอนหลับให้เพียงพอ
    • วัยทำงาน ที่ต้องทำงานหนัก เครียด นั่งหน้าจอทั้งวัน
    • ผู้สูงอายุ ที่เริ่มหลงๆลืมๆ นอนหลับยาก นอนหลับลึกได้น้อยลง

บทความที่เกี่ยวข้อง