“ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะน้ำแข็ง” อ่านไม่ผิดหรอกจ๊ะสาว ๆ เพื่อให้เข้ากับเทรนด์ในปัจจุบันที่กำลังมาแรง แซงทุกโค้ง แบบชนิดที่เรียกได้ว่าเปิดโซเชียลมาใน 1 วันจะต้องเห็นคลิปเหล่าเน็ตไอดอลดูแลผิวหน้าด้วยความเย็นกันเป็นแถว ซึ่งเทรนด์ที่ว่าก็คือการทำ Ice Facial หรือการนำน้ำแข็งมาถูวน ๆ ทั่วใบหน้านั่นเอง แต่จริง ๆ แล้วเทรนด์นี้เป็นที่นิยมในต่างประเทศฝั่งอเมริกาหรือยุโรปกันอยู่แล้ว ส่วนสาวเอเชียอย่างเรา ๆ ที่อยากจะลองบ้าง วันนี้เรามาทำความรู้จักเทรนด์ใหม่นี้กันให้มากขึ้น และมาดูสิ่งที่ควรรู้ก่อนที่คุณจะเริ่มทำกันดีกว่าค่ะ

5 ข้อควรรู้ ก่อนทำ Ice Facial

ก่อนที่สาว ๆ หนุ่ม ๆ จะเอาน้ำแข็งมาถูหน้า ลองมาดู 5 ข้อควรรู้ที่จะทำให้การดูแลผิวด้วยความเย็นของทุกคนเห็นผลลัพท์มากที่สุดกันก่อนค่ะ

• • อย่าใช้น้ำแข็งถูหน้าโดยตรง

สำหรับคนที่มีผิวหน้าบอบบาง หรือผิวแพ้ง่าย การทำ Ice Facial แบบที่ใช้น้ำแข็งสัมผัสกับผิวหน้าโดยตรงจะทำให้เกิดการระคายเคือง เกิดการแพ้จากน้ำแข็งที่ไม่สะอาด หรือทำให้ผิว burn จากน้ำแข็งที่เย็นจัด ดังนั้นข้อควรระวังในการทำอย่างแรกเลยคือ ควรใช้น้ำที่เราดื่มมาทำเป็นน้ำแข็งเพื่อความสะอาด และไม่ควรถูนานเกินไป อาจทำให้หน้าแดง แสบและคันได้ อีกอย่างคือเพื่อน ๆ ควรนำผ้าขนหนูมาห่อก้อนน้ำแข็งก่อนจะนำมาถูที่หน้าทุกครั้ง เพื่อลดการเสียดสีของน้ำแข็งกับใบหน้ามากจนเกินไป

ส่วนใครที่มีงบขึ้นมาหน่อย หรือไม่สะดวกในการทำน้ำแข็งรวมถึงไม่มั่นใจในเรื่องความสะอาด อาจใช้ตัว applicator ที่เป็นลูกตุ้ม ลูกกลิ้ง หรือ Ice globes นำไปแช่เย็น แล้วนำมานวดที่ใบหน้าแทน ก็ช่วยได้เหมือนกันค่ะ และเป็นการหลีกเลี่ยงการเอาน้ำแข็งที่เย็นจัดมาสัมผัสกับหน้าโดยตรงอีกด้วย

• • น้ำแข็งไม่ช่วยรักษาสิว

ถึงแม้ว่าความเย็นจากน้ำแข็งจะช่วยลดรอยแดง และลดอาการปวดจากการสิวได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยรักษาหรือป้องกันการเกิดสิวได้นะคะสาว ๆ

• • ยิ่งนวด ยิ่งกระตุ้นสิวอักเสบ

สำหรับคนที่มีสิวอักเสบอยู่ แต่อยากจะนวดหน้าด้วยน้ำแข็ง ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการกด หรือนวด บริเวณที่มีสิวอักเสบ นอกจากไม่เกิดประโยชน์แล้ว ยังอาจเป็นการกระตุ้นให้อักเสบมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก อาจทำเพียงประคบเบา ๆ เพื่อลดอาการแดงเท่านั้น

• • รูขุมขนกระชับแค่ชั่วคราวเท่านั้น

ต้องมองไปถึงสาเหตุหรือต้นตอว่าจริง ๆ แล้วรูขุมขนกว้างนั้นเกิดจากอะไร ซึ่งก็เกิดจากการที่ผิวขาดคอลลาเจนนั้นเอง เพราะฉะนั้นการที่เราใช้ความเย็นกับตรงที่มีรูขุมขนกว้าง ก็จะช่วยให้รูขุมขนหดลงได้จริง แต่จะเกิดขึ้นแค่เพียงขั่วคราวเท่านั้น พอความเย็นนั้นหมดลง รูขุมขนก็จะกลับมาเท่าเดิม เพราะเราไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุจริง ๆ หากใครมีปัญหารูขุมขนกว้างแนะนำให้แก้ปัญหาให้ตรงจุดก่อน แล้วเสริมด้วยการทำ Ice Facial จะดีกว่าค่ะ

• • ทำลายเกราะป้องกันผิวหน้า

การล้างหน้าด้วยน้ำที่เย็นจัดกับผิวที่บอบบาง นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์ และทำให้เกิดปัญหาที่เรากล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังทำให้เกราะป้องกันผิว หรือที่เรียกว่า skin barrier ถูกทำลายทำให้ผิวหน้าเกิดปัญหาผิวได้ง่ายกว่าเดิมอีกด้วย ทางที่ดีควรล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิห้องก็เพียงพอแล้ว

Ice Facial ผิวหน้าสวย ด้วยความเย็น

เมื่อทราบถึงข้อควรระวังในการใช้ความเย็นกับผิวหน้าแล้ว ก็มาดูประโยชน์ที่จะได้รับกันบ้างดีกว่า จะมีอะไรบ้าง และตรงกับความต้องการของเพื่อน ๆ หรือไม่ ไปดูกันเลย

• • ความเย็นช่วยลดถุงใต้ตา

ดูซีรี่ส์เกาหลีร้องไห้หนักทุกคืน ตื่นเช้ามาตาบวม ถุงใต้ตาปูดสุด ๆ ความเย็นจากการทำ Ice Facial ช่วยคุณได้ ลองนำน้ำแข็งมาประคบ หรือลูบ ๆ วน ๆ บริเวณดวงตา ความเย็นจะช่วยระบายของเหลวที่สะสมบริเวณใต้ตา ทำให้ถุงใต้ตาลดลงได้

• • ลดความบวมบนใบหน้า

เรามักจะเห็นคนที่ได้รับบาดเจ็บหรือผ่านการทำศัลยกรรมบนใบหน้าใช้น้ำแข็งประคบตรงจุดนั้น ๆ เพื่อลดอาการบวม นั่นเป็นเพราะเส้นเลือดขยายตัว ทำให้เกิดความคล้ำและบวม ความเย็นจากน้ำแข็งจะช่วยทำให้หลอดเลือดหดตัว และระบายของเหลวออก ทำให้อาการบวมลดลง

• • ปลอบประโลมผิวจากแสงแดด

ประเทศไทยกับแสงแดดเป็นของคู่กันอยู่แล้ว แน่นอนว่าปัญหาผิวคล้ำเสียหรือผิวไหม้จากแสงแดดมักเป็นปัญหาอันดับต้น ๆ ของชาวไทย แต่รู้หรือไม่ว่าน้ำแข็งช่วยคุณได้ เพราะความเย็นจากน้ำแข็งจะช่วยปรับอุณหภูมิผิวให้เย็นลง จากการโดนความร้อนของแสงแดด ความเย็นจะช่วยปลอบประโลมผิว บรรเทาอาการแสบร้อนของผิวได้

• • ผิวสดใสเปล่งปลั่ง

ความเย็นของน้ำแข็งจะช่วยให้หลอดเลือดหดตัวลง ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง ผิวหน้าดูเนียน และกระจ่างใสขึ้น

ผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

ความเย็นจากการทำ Ice Facial เป็นอีก 1 วิธีในการดูแลผิวจากภายนอก แต่ถ้าอยากดูแลผิวให้ดูสุขภาพดีอย่างยั่งยืน ควรบำรุงผิวจากภายในควบคู่ไปด้วย เช่นการทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกาย หรือการทานอาหารเสริมที่มีส่วนผสมช่วยบำรุงผิว อย่างการทานคอลลาเจนที่นิยมเป็นอย่างมาก หาทานง่าย และสามารถเลือกทานได้ตามไลฟ์สไตล์หรือความเหมาะสมของแต่ละคน

สำหรับใครที่ต้องการตัวช่วยบำรุงผิวจากภายในแบบพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้ ต้องลอง NADE’ Collagen คอลลาเจนพรีเมียม 10,000 มิลลิกรัม ที่มีให้เลือกถึง 2 สูตร ทั้งแบบผงชงดื่มและแบบเจลลี่พร้อมทาน

ตัวแรกที่อยากแนะนำเลยคือ NADE’ Marine Collagen + Dipeptide คอลลาเจนรูปแบบผงชงดื่ม นำเข้าจากประเทศนอร์เวย์ อัดแน่นด้วยสารสกัดมากถึง 22 ชนิด

• ทานง่าย ไม่คาว 
• คอลลาเจนที่สกัดจากปลาหิมะนำเข้าจากประเทศนอร์เวย์
• คอลลาเจนมากที่สุดถึง 10,000 มิลลิกรัมต่อซอง 100,000 mg/กล่อง
• กลิ่น Mix Berry 
• 0% Sugar & Fat
• นวัตกรรม TeloAge ที่ช่วยเสริมสร้าง เทโลเมียร์ พร้อมกับการปรับภูมิคุ้มกันให้สมดุล ช่วยย้อนวัย ชะลอวัย ต้านความแก่ลึกถึงระดับเซลล์ ผิวคืนความหนุ่มสาวและดูสุขภาพแข็งแรง เพราะยิ่งอายุมากขึ้นเทโลเมียร์ในโครโมโซมจะหดตัวและสั้นลงเรื่อยๆ ส่งผลต่อความเสื่อมของร่างกาย แต่ด้วยกลไกของ Teloage จากผลงานวิจัยรางวัลโนเบล จะช่วยยืดปลายสายของเทโลเมียร์ทำให้ลดโอกาสการเจ็บป่วยและช่วยชะลอวัยและลดความเสื่อมของร่างกายลึกถึงระดับเซลล์ได้จริง
• ทานวันละ 1 ซอง ตอนเช้าก่อนอาหารหรือตอนท้องว่าง

ประโยชน์ที่จะได้รับ

• ผิวขาว สว่าง กระจ่างใส ชุ่มชื้น ลดริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ
• ชะลอวัยลึกถึงระดับเซลล์
• ผมไม่ขาดหลุดร่วงง่าย หนังศีรษะแข็งแรง
• เล็บแข็งแรง ไม่เปราะบาง 
• ลดความเสี่ยงในการเสื่อมสภาพของข้อต่อ
• กระดูกแข็งแรง ไม่ปวด อาการปวดเข่าลดลง
• เหงือกและฟันแข็งแรง
• เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

และอีก 1 ตัวอย่าง NADE’ Collagen Jelly คอลลาเจนรูปแบบเจลลี่พร้อมทาน นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น พร้อสารสกัด 12 ชนิด

• คอลลาเจนจากปลาน้ำจืด แพ้อาหารทะเลก็ทานได้
• มีคอลลาเจนรวม 10,000 มิลลิกรัม
• มี Collagen Dipeptide ที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายที่สุด
• มี Collagen Tripeptide
• มี Collagen Type II (ไทป์ทู) ช่วยบำรุงกระดูก ข้อต่อ ข้อเข่า ชะลอการเสื่อมของข้อเข่า
• มีวิตามินซีที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมคอลลาเจนได้ดียิ่งขึ้น
• กลิ่น Peach
• 0% Sugar & Fat
• ทานวันละ 1 ซอง ตอนเช้าก่อนอาหาร, ตอนท้องว่าง หรือก่อนนอน

ประโยชน์ที่จะได้รับ

• ผิวขาว สว่าง กระจ่างใส ชุ่มชื้น ลดริ้วรอย 
• ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ
• ช่วยลดการเกิดสิวจากฮอร์โมน
• ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดไม่ให้คล้ำเสีย ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
• ผมไม่ขาดหลุดร่วงง่าย หนังศีรษะแข็งแรง
• เล็บแข็งแรง ไม่เปราะบาง 
• ลดความเสี่ยงในการเสื่อมสภาพของข้อต่อ
• กระดูกแข็งแรง อาการปวดเข่าลดลง
• เหงือกและฟันแข็งแรง