“เที่ยว” กันมั้ยย
เข้าเดือนกุมภาพันธ์เดือนแห่งความรักแล้วปลายหน้าหนาวแบบนี้ต้องไปเที่ยวกันสักหน่อย วันนี้เราเลยคัดที่เที่ยวให้คุณกุมมือคนรักไปเที่ยวส่งท้ายปลายหนาวจะมีที่ไหนบ้างนั้นตามมาดูกัน
9 สถานที่ เที่ยว ส่งท้ายปลายหนาว
-
- ศูนย์วิจัยเกษตรหลวง จังหวัดเชียงใหม่
ที่แรกก็ขึ้นเหนือกันก่อนเลยกับที่นี่ศูนย์วิจัยเกษตรหลวง ขุนวาง เชียงใหม่ ซึ่งจะอยู่ระหว่างทางขึ้นไปยังดอยอินทนนท์ เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมต้นพญาเสือโคร่งหรือที่เรียกกันว่าซากุระเมืองไทย ที่จะบานในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ขอบอกว่าสวยไม่แพ้ต่างประเทศเลย
- ศูนย์วิจัยเกษตรหลวง จังหวัดเชียงใหม่
-
- ไร่สตรอว์เบอร์รี สะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
ไร่สตรอว์เบอร์รี อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกสตรอว์เบอร์รีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมไร่ในฤดูเก็บสตรอว์เบอร์รีช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งไร่สตรอว์เบอร์รีก็มีหลายที่ให้เลือก บางที่สามารถไปเก็บสตรอว์เบอร์รีเองได้เลย บางที่ก็มีที่พัก จุดตั้งเต้นท์ จุดปิกนิกให้ด้วย ชอบแบบไหนเก็บกระเป๋าแล้วไปกัน
- ไร่สตรอว์เบอร์รี สะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
-
- ดอยฟ้างาม จังหวัดลำปาง
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นจุดชมทะเลหมองที่สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา มีพื้นที่กางเต็นท์พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติและยังได้ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกอีกด้วย ปลายหนาวแบบนี้ต้องไม่พลาดที่นี่นะ
- ดอยฟ้างาม จังหวัดลำปาง
-
- ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน
สายแคมป์ปิ้งต้องไม่พลาดกับที่นี่ดอยเสมอดาว จุดกางเต็นท์ยอดนิยมในอุทยานแห่งชาติศรีน่านที่ตื่นเช้ามาจะได้พบกับทะเลหมอกที่ไกลสุดท้ายตา แต่ไฮไลท์ของการมากางเต็นท์นอนที่นี่ก็คือมาชมดวงดาวนับล้านดวงที่ส่องแสงระยิบระยับบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ที่อยู่ใกล้เหมือนเอื้อมมือคว้าดาวกันได้เลยทีเดียว
- ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน
-
- สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
อำเภอเล็ก ๆ ที่อยู่กลางหุบเขาในจังหวัดราชบุรี ที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ ป่าไม้นานาพรรณ และภูเขาสลับซับซ้อน มีกิจกรรมให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นฟาร์มเมล่อน ให้อาหารแกะ แช่น้ำแร่ที่ธารน้ำร้อนบ่อคลึง หรือจะพักผ่อนค้างคืนก็มีรีสอร์ทที่มีให้เลือกมากมาย แถมยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงกว่าเท่านั้นเอง
- สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
-
- เทศกาลบอลลูนนานาชาติ สิงค์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย
งานแสดงบอลลูนแฟนซีจากหลากหลายประเทศกว่า 30 ลูก ภายในงานมีให้ชมตั้งแต่การเป่าบอลลูน ชมบอลลูน ซึ่งจะเปิดใช้ชม 2 รอบคือรอบเช้าช่วง 6-7 โมง ชมพระอาทิตย์ขึ้น และรอบเย็น 4-5 โมง ชมพระอาทิตย์ตก และยังสามารถขึ้นชมวิวบนบอลลูนได้อีกด้วย นอกจากนี้ ภายในงานยังมีคอนเสิร์ตจากหลากหลายศิลปิน มีโซนอาหาร โซนนั่งชิล และยังมีโซน Flower Bloom แปลงดอกไม้ตามฤดูกาล รับรองได้ว่ามาเทศกาลบอลลูนงานนี้คุ้มแน่นอน
- เทศกาลบอลลูนนานาชาติ สิงค์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย
-
- เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
สถานที่ท่องเที่ยวที่มาที่เดียวก็คุ้มเพราะมีทั้งจุดชมทะเลหมอก ชมดอกไว้ ชมวิวกังหัน ชมวิวเขาที่เราจะสามารถมองเห็นเทือกเขาเล็กใหญ่แบบสุดลูกหูลูกตา ซึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมทะเลหมอกบนเขาค้อก็คือเขาตะเคียนโง๊ะ เป็นจุดที่สามารถชมทะเลหมอกได้แบบ 360 องศา และยังสามารถมองเห็นเห็นเขาปู่-เขาย่าที่มีรูปทรงคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย
.
นอกจากนี้ยังมีทุ่งกังหันลมที่ราบยอดเนินเขากว่า 350 ไร่ สามารถชมวิวกังหันลมขนาดใหญ่ได้ฟีลไปเที่ยวต่างประเทศเลย อีกหนึ่งที่ก็คือหุ่นฟางคิงคองและไดโนเสาร์ตัวใหญ่เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของเขาค้อที่ใครมาต้องมีรูปนี้ และที่นี่ยังมีจุดกางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวให้มาพักผ่อนค้างคืนเพื่อตื่นมาชมแสงอาทิตย์แรกและทะเลหมอกในยามเช้าอีกด้วย
- เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
-
-
- อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี
เขาคิชฌกูฏหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สายบุญต้องไม่พลาด ซึ่งปีนี้อุทยานแห่งชาติเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทได้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม – 22 มีนาคม 2566 โดยการเดินทางขึ้นไปยอดเขาทำได้แค่การเดินเท้าหรือใช้บริการคิวรถขึ้นเขาเท่านั้น เพราะเส้นทางลาดชันและเป็นถนนลูกรังจึงไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวขึ้นไป
.
นอกจากนมัสการรอยพระพุทธบาทแล้ว ลานผ้าแดงก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ผู้คนนิยมเดินทางมาเขียนคำอธิษฐานลงบนผ้าแดง ด้วยความเชื่อที่ว่าเมื่อได้เขียนคำอธิษฐานลงบนผ้าแล้วคำขอจะเป็นจริง ซึ่งที่จริงผ้าแดงนั้นแขวนไว้เพื่อบ่งบอกจุดสิ้นสุดเขตแดนบนเขาคิชฌกูฏซึ่งมีความลาดชันและอันตราย แต่หลังจากที่มีคนเริ่มเขียนข้อความอธิษฐาน จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นอีกจุดสำคัญที่ต้องไปเมื่อเดินทางขึ้นไปบนเขาคิชฌกูฏ
- อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี
-
- เสม็ดนางชี จังหวัดพังงา
เสม็ดนางชีอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของภาคใต้ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย สามารถมองเห็นทั้งวิวทิวทัศน์ของเกาะต่าง ๆ ภูเขาหินปูนของอ่าวพังงา โดยเฉพาะในช่วงเช้าที่แสงของพระอาทิตย์ส่องเป็นประกายออกมา บอกเลยว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับเดือนแห่งความรักจริง ๆ
ไอเท็มที่สาย เที่ยว ต้องมี! NADE’ Collagen Jelly ตัวช่วยดูแลผิวพรรณที่พร้อมทานพกพาสะดวก
จะขึ้นเหนือล่องใต้หรือไปเที่ยวที่ไหน ๆ ไอเท็มที่ต้องมีติดกระเป๋าไว้ก็คือ NADE’ Collagen Jelly คอลลาเจนพร้อมทาน พกพาสะดวก เติมคอลลาเจนให้ผิวได้ทุกที่ทุกเวลา ช่วยดูแลทุกสภาพผิวให้นุ่มชุื้นไม่แห้งกร้าน ด้วยปริมาณคอลลาเจนรวม 10,000 มิลลิกรัม ที่มาพร้อมสารสกัดกว่า 12 ชนิด ช่วยดูแลผิวอย่างล้ำลึก ปกป้องผิวจากแสงแดด เติมเต็มริ้วรอยให้ผิวกระชับ เรียบเนียน อิ่มน้ำอย่างมีสุขภาพดี
NADE’ Collagen Jelly ผิวกระจ่างใส ไร้สิว ปกป้องผิวจากแสงแดด
เที่ยว ได้เต็มที่ไม่ต้องกลัวผิวเสีย
คอลลาเจนไดเปปไทด์ : ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวอิ่มน้ำ ชุ่มชื้น เรียบเนียน ลดการเกิดริ้วรอย
คอลลาเจนไตรเปปไทด์ : ช่วยซ่อมแซมและเติมเต็มคอลลาเจนในผิวอย่างมีประสิทธิภาพ
Ascorbic Acid : เพิ่มความแข็งแรงและยืดหยุ่นให้ชั้นผิว ลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวกระจ่างใส
L-Glutathione : เสริมสร้างคอลลาเจน ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ปรับสีผิวให้กระจ่างใส
Astaxanthin : คงความอ่อนเยาว์ให้ผิวพรรณ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
Licorice Extract : ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ
Melon Extract : ชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว
Gac Extract : ป้องกันการเกิดริ้วรอย และผิวแห้งกร้าน
Grape Extract : ยังยั้งการทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยลดริ้วรอยและลดปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ