fbpx Skip to content

ปัญหายอดฮิตที่คุณอาจเป็นโดยไม่รู้ตัว “ไม่มีสมาธิ” ในการทำงาน

ไม่มีสมาธิแก้ได้

ปัญหาที่คุณอาจเป็นโดยไม่รู้ตัว “ไม่มีสมาธิ” ในการทำงาน

“ไม่มีสมาธิ” ในการทำงาน ปัญหาใกล้ตัวที่หลาย ๆ คนมองข้ามเพราะคิดว่าปัญหานี้อาจเกิดจากความขี้เกียจ ความเหนื่อยล้า หรือภาวะหมดไฟในการทำงาน แต่ความจริงนั้นการไม่สามารถจดจ่อกับงานหรือสิ่งที่ทำอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับสมาธิหรือโรคที่มีลักษณะคล้ายสมาธิสั้น

ไม่มีสมาธิแก้ได้

“ไม่มีสมาธิ”ทำงานคล้ายกับโรคสมาธิสั้นหรือไม่?

การไม่มีสมาธิในการทำงานอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรค ADT (Attention Deficit Trait) หรือโรคสมาธิสั้นของวัยทำงาน เป็นโรคที่มีลักษณะอาการคล้ายกับโรคสมาธิสั้น (ADD: Attention Deficit Disorder) แต่มีสาเหตุมาจากสภาพแวดล้อมในการทำงานทำให้สมองตอบสนองต่อความต้องการของงานที่ต้องเสร็จเร็ว และเริ่มละเลยประสิทธิภาพของงาน

สอดคล้องกับรูปแบบการทำงานในปัจจบันที่ต้องแข็งขันกับเวลาอยู่เสมอ ทำให้เรารู้สึกว่างานทุกชิ้นนั้นเร่งด่วนเหมือนกันทั้งหมด ซึ่งการทำงานแบบเร่งรีบส่งผลให้สมองสูญเสียความสามารถในการคิด และวิเคราะห์ในการทำงานอย่างละเอียด ทำให้ประสิทธิภาพของงานแลดลง ทำงานพลาดอยู่บ่อยครั้ง ต้องแก้งานเดิมซ้ำกันหลาย ๆ รอบ จนทำให้รู้สึกเหนื่อย เครียด และกังวลมากขึ้นกว่าเดิม

พฤติกรรมแบบไหนที่กำลังบ่งบอกว่า”ไม่มีสมาธิ”ทำงาน

หลาย ๆ คนอาจไม่เคยสังเกตพฤติกรรมของตัวเอง มาลองสังเกตตัวเองกันว่าเริ่มมีพฤติกรรมการทำงานเหล่านี้บ้างหรือไม่

    • คุณชอบทำงานแบบ Multitasking ทำหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน
    • คุณมักจะจัดลำดับความสำคัญของงานไม่ได้
    • คุณต้องใช้ระยะเวลาในการทำงานมากขึ้นกว่าปกติ
    • คุณไม่มีสมาธิ จิตใจวอกแวก ไม่สามารถจดจ่ออยู่กับงานใดงานหนึ่งได้นาน
    • คุณอยากทำงานให้เสร็จเร็วๆ แต่ไม่ได้ตั้งใจกับการทำงานเท่าที่ควร
    • คุณรู้สึกเครียด และกังวลเกี่ยวกับงาน หรือเรื่องส่วนตัวตลอดเวลา
    • คุณรู้สึกไม่กระตือรือร้น เฉื่อยชา และทำงานพลาดอยู่บ่อยครั้ง
    • คุณมีอารมณ์แปรปรวนอยู่บ่อยๆ จนทำงานร่วมกับผู้อื่นไม่ได้
    • คุณรู้ตัวว่ามีความสามารถ แต่ทำงานออกมาได้ไม่ดีนัก
    • คุณแบ่งเวลาไม่ได้อีกต่อไป ไม่รู้จะทำชิ้นไหนก่อน-หลัง มีปัญหาอยู่กับการจัดการระบบงานต่าง ๆ อยู่เสมอ
    • ความคิดสร้างสรรค์ของคุณหายไป ไม่กระตือรือร้น
    • คุณเริ่มไม่ดูแลตัวเอง ละเลยการดูแลสุขภาพ และไม่สนใจที่จะทำให้สุขภาพดีขึ้น

ไม่มีสมาธิแก้ได้

แก้ไขและปรับพฤติกรรมไม่มีสมาธิทำงานได้อย่างไร

อย่าเพิ่งวิตกจนเกิดไปเพราะปัญหาเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน และสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการง่าย ๆ ดังนี้

    1. เลือกสถานที่ที่เหมาะกับการทำงาน เพราะสถานที่และสภาพแวดล้อมต่างๆ นั้นสามารถส่งผลต่อสมาธิของเราระหว่างทำงานได้ โดยสถานที่ที่เหมาะกับการทำงาน มีดังนี้
      – บ้าน สถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย มีความเป็นส่วนตัว เงียบสงบจึงทำให้รู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังสามารถจัดสถานที่นั่งทำงานได้ตามใจชอบ เพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบของการทำงาน แถมยังช่วยเสริมให้ทุกคนมีสมาธิมากยิ่งขึ้นอีกด้วย แต่หากบ้านที่มีสมาชิกภายในครอบครัวหลายคน อาจมีเสียงดังรบกวนก็สามารถเลือกสถานที่ทำงานที่อื่นๆ แทนได้
      – ออฟฟิศ เป็นสถานที่สำหรับทำงานที่มีสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่เหมาะสมในการทำงาน ส่งผลให้รู้สึกว่าจะต้องตั้งใจทำงานเหมือนกับคนอื่นๆ และจะทำให้คุณสามารถจดจ่อกับงานที่กำลังทำอยู่ได้มากขึ้น
      – Co-working Space เป็นสถานที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เหมือนกับทำงานอยู่ที่ออฟฟิศ แต่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนกับทำงานอยู่ที่บ้าน ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่วัยทำงานได้เป็นอย่างดี
    2. ดื่มกาแฟหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา หรือโกโก้ เป็นอีกเทคนิคที่จะช่วยให้คุณมีสมาธิในการทำงานมากขึ้น เพราะอาการง่วงหรือตาพร่ามัวจากการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานส่งผลให้คุณนั้นไม่มีสมาธิในการทำงานได้ ดังนั้นการดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน จะช่วยให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและสามารถจดจ่อกับงานที่กำลังทำได้ดีมากยิ่งขึ้น
    3. การวางแผนการทำงานในแต่ละวันนั้น ช่วยทำให้การทำงานของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะว่าการวางแผนจะช่วยให้คุณสามารถจัดลำดับความสำคัญของงานแต่ละชิ้นได้ดี และมีเป้าหมายในแต่ละวันมากขึ้น เมื่อคุณทราบว่าแต่ละวันจะต้องทำอะไรบ้าง จะส่งผลให้คุณกระตือรือร้นในการทำงานเหล่านั้นให้สำเร็จตามเป้าหมาย และทันเวลาที่กำหนดไว้ แถมยังทำให้คุณจดจ่อกับงานได้มากขึ้น และงานที่คุณทำนั้นจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามไปด้วย
    4. ไม่ทำงานแบบ Multitasking เพราะการทำงานแบบ Multitasking ทำให้คุณจดจ่อไปที่งานชิ้นใดชิ้นหนึ่งได้อย่างไม่เต็มที่ และส่งผลให้คุณไม่มีสมาธิทำงานมากเท่าที่ควร เพราะจะต้องทำงานแต่ละชิ้นแบบสลับไปสลับมา นอกจากนั้นการทำงานแบบ Multitasking ยังทำให้คุณต้องใช้เวลามากขึ้นกว่าการทำงานแบบจดจ่อทีละชิ้น และอาจส่งผลให้งานทุกชิ้นที่ทำออกมานั้นไม่มีประสิทธิภาพอีกด้วย ดังนั้นทุกคนที่กำลังทำงานแบบ Multitasking จึงควรหยุดการกระทำนี้ และหันมาทำงานทีละชิ้นเพื่อเป็นการฝึกสมาธิในการทำงาน
    5. หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนจากรอบข้างระหว่างทำงาน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง การดูแจ้งเตือนต่าง ๆ ของโทรศัพท์ หรือสิ่งรบกวนอื่น ๆ ที่จะทำให้ไม่มีสมาธิทำงาน หรือจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่มากเท่าที่ควร และยังทำให้มีโอกาสเสี่ยงในการทำงานผิดพลาดมากขึ้นอีกด้วย
    6. แบ่งเวลาพักระหว่างทำงานให้ดี เพื่อให้สมองได้พักผ่อน และฟื้นฟูจากความเหนื่อยล้า พร้อมกลับมาสนใจงานที่กำลังทำ และมีสมาธิในการทำงานมากขึ้น
    7. พักผ่อนให้เพียงพอ ถือว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาไม่มีสมาธิทำงานที่ตรงจุดมากที่สุด เพราะการนอนหลับอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมงนั้นจะช่วยให้ร่างกายและสมองได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ พร้อมสำหรับการทำงานในวันถัดไป แต่ถ้าหากพักผ่อนน้อยเกินไป สามารถส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานของด้านต่าง ๆ ในร่างกาย อย่างเช่นด้านความคิดและความจำ แถมยังทำให้ไม่มีสมาธิหรือไม่สามารถจดจ่อกับงานได้

อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ช่วยเสริมสร้างสมาธิและยังช่วยบำรุงสมองที่ใคร ๆ ก็บอกต่อนั่นก็คือ Becoplus (บีโคพลัส) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยบำรุงระบบประสาท สร้างเสริมสมาธิ ปรับสมดุลการนอน ตอบโจทย์วัยเรียนวัยทำงานที่ใช้สมองหนัก มีความเครียดสะสม พักผ่อนไม่เพียงพอ ต้องการตัวช่วยบำรุงสมอง ช่วยให้ผ่อนคลาย 😌

Becoplus ประโยชน์อัดแน่นทุกแคปซูล

    • บำรุงระบบประสาทและสมอง
    • ช่วยให้หลับสนิทยิ่งขึ้น หลับลึก หลับง่ายกว่าที่เคย
    • ป้องกันการเกิดอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ
    • เสริมความจำ บำรุงสมองขณะนอนหลับ เพิ่มประสิทธิภาพการจดจำให้ดียิ่งขึ้น
    • เสริมสร้างสมาธิ
    • ผ่อนคลายความเครียด
    • ช่วยบำรุงให้ร่างการแข็งแรง
    • สารสกัดจากธรรมชาติ 100%
    • ลดอาการปวดไมเกรน

บทความที่เกี่ยวข้อง