อายุขึ้นเลข 3 ปัญหาผิวเริ่มก่อตัวให้เห็นชัดขึ้น สภาพแวดล้อมหรือพฤติกรรมส่วนตัวเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาผิว อีก 1 ปัจจัยหลักที่เกิดจากกระบวนการภายในร่างกายที่ทุกคนต้องเจอก็คือ การที่ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอยได้ง่ายนั้นเอง แล้วถ้าร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง เราจะทำยังไงดีล่ะ ? จะสามารถเติมคอลลาเจนให้ร่างกายได้หรือไม่ แล้วถ้าทำได้ เราควรเลือก คอลลาเจนแบบไหน หรือ ทานคอลลาเจนให้เห็นผล ต้องทานอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบมาให้เพื่อน ๆ แล้ว
ทำไมต้องทานคอลลาเจน
เชื่อว่าใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะหนุ่มสาวในวัย 20 ปลาย ๆ ที่กำลังจะก้าวเข้าสู่เลข 3 อาจจะสงสัยว่า ทำไมเราถึงต้องทานคอลลาเจน คอลลาเจนมีความสำคัญกับร่างกายอย่างไร ทำไมใคร ๆ ก็ทานคอลลาเจนกัน ก่อนอื่นเลยเราต้องมาทำความรู้จักกับเจ้าสิ่งนี้กันก่อนค่ะ
คอลลาเจน (Collagen) คือ โครงสร้างหลักของผิวหนังมนุษย์ เป็นเส้นใยโปรตีนที่สำคัญในชั้นผิวหนังแท้ ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังที่ไม่ว่าครีมบำรุงตัวไหนก็ไม่สามารถบำรุงล้ำลึกเข้าไปถึงได้ และเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น ร่างกายจะสร้าง Collagen ได้น้อยลง หากร่างกายได้รับคอลลาเจนไม่เพียงพอจะทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น ไม่เรียบเนียน และเกิดริ้วรอย ทำให้ดูแก่กว่าวัย เราจึงต้องเติมคอลลาเจนให้กับร่างกายอยู่เสมอ
โดยหน้าที่หลักของคอลลาเจน นั้นก็คือ ช่วยยึดเกาะองค์ประกอบที่อยู่ในชั้นผิวเข้าด้วยกัน ไม่ให้ถูกทำลาย เช่น อีลาสติน และไฮยาลูรอนิค แอซิด และช่วยค้ำจุนผิวให้คงสภาพอยู่ได้ ช่วยให้ผิวมีความเรียบเนียน
แล้วทำไมคอลลาเจนในร่างกายถึงลดลงได้ นั้นก็เป็นเพราะปัจจัยเหล่านี้ ซึ่งได้แก่
-
- อายุที่มากขึ้น ตั้งแต่ 20 ปลาย ๆ เป็นต้นไป ทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง
- แสงแดด ฝุ่น มลภาวะ
- อาหารที่มีแป้ง น้ำตาล และไขมันในปริมาณสูง
- การดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่
- ความเครียด และการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
และเมื่อผิวขาดคอลลาเจน ผิวของเราก็จะได้รับผลกระทบมากที่สุด และเกิดอาการเหล่านี้ตามมา
-
- ผิวหย่อนคล้อย ไม่เรียบเนียน มีริ้วรอย
- ผิวขาดความยืดหยุ่น เนื่องจากอีลาสติน ถูกทำลาย
- ผิวขาดความชุ่มชื้น เนื่องจากไฮยาลูรอนิค แอซิด ถูกทำลาย
- ผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย เนื่องจากโครงสร้างผิวที่ไม่แข็งแรง
ทานคอลลาเจนให้เห็นผล เร็วสุด ทานอย่างไร
ทำความรู้จักกับคอลลาเจนกันไปแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการเลือกซื้อคอลลาเจน ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะกำลังตั้งคำถามอยู่ว่า แล้วจะต้องซื้อคอลลาเจนแบบไหนถึงจะดีที่สุดล่ะ เพราะปัจจุบันก็มีคอลลาเจนออกมาให้เลือกซื้อกันหลายยี่ห้อ แต่ละเจ้าก็เคลมแรงกันทั้งนั้น วันนี้นาเด้เลยมีทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเลือกซื้อคอลลาเจนมาทานให้ได้ประโยชน์มากที่สุดมาฝากกันด้วยค่ะ
- เลือกชนิดของคอลลาเจนที่ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ดี ตัวที่แนะนำเลยคือ คอลลาเจนไดเปปไทด์ เพราะมีอนุภาคเล็กที่สุด ร่างกายนำไปใชได้เร็วที่สุด หรือคอลลาเจนไตรเปปไทด์ที่ดูดซึมได้ดีรองลงมาจากคอลลาเจนไดเปปไทด์
- ควรทานคอลลาเจนกับวิตามินซี เพราะวิตามินซีจะช่วยเสริมการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายได้ดียิ่งขึ้น และวิตามินซียังช่วยเสริมการสังเคราะห์คอลลาเจนได้อีกด้วย ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ต้องหาวิตามินซีมาทานเพิ่มให้ยุ่งยากแล้ว เพราะคอลลาเจนบางยี่ห้อเค้าใส่วิตามินซีมาให้แล้วด้วย
- ทานคอลลาเจนตอนท้องว่าง ตอนเช้า ก่อนนอน หรือก่อนรับประทานอาหารประมาณ 30 นาที เพื่อให้คอลลาเจนดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น
- เลือกคอลลาเจนที่มีส่วนประกอบของสารสกัดอื่น ๆ ที่มีประโยชน์เพิ่มเติม เพื่อให้ได้ประโยชน์ครบในทุก ๆ ด้าน ทั้งบำรุงผิว ผม เล็บ กระดูกและข้อต่อ อย่างเช่น NADE’ Marine Collagen+Dipeptide ที่ทานง่าย แต่ได้ประโยชน์เต็ม ๆ จากสารสกัดที่มีประโยชน์กว่า 22 ชนิด ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น บำรุงครบจบในซองเดียว
- เลือกคอลลาเจนที่รสชาติดี ทานง่าย อร่อย ไม่คาว จะช่วยให้ทานง่ายขึ้น
- คนที่กลัวอ้วนหรือกำลังควบคุมน้ำหนักอยู่ ควรเลือกคอลลาเจนที่ไม่มีน้ำตาลและไขมัน เพราะคอลลาเจนบางยี่ห้อต้องการดับกลิ่นคาวเลยใส่น้ำตาลมาเยอะมาก เพื่อให้ทานง่ายและอร่อย
เลือกทาน คอลลาเจนแบบไหน
กำลังจะกดสั่งซื้อคอลลาเจนอยู่แล้ว แต่ดันมีให้เลือกหลายรูปแบบไปอีก ทั้งคอลลาเจนแบบเม็ด กับแบบผง แล้วเราควรจะเลือกแบบไหนดี อยากรู้แล้วใช่มั้ย เรามีคำตอบให้จ้า
คอลลาเจนชนิดเม็ด
-
- ข้อดี
- พกพาสะดวก
- เก็บรักษาคุณภาพได้ดี
- หาซื้อง่าย
-
- ข้อเสีย
- ได้ปริมาณของคอลลาเจนน้อยกว่ารูปแบบผง
- เมื่อเทียบกับแบบผงแล้วจะเห็นผลได้ช้ากว่า
- สำหรับคนที่ทานยายากอาจจะทานลำบาก
คอลลาเจนชนิดผง
-
- ข้อดี
- เมื่อเทียบกับรูปแบบอื่นจะได้ปริมาณคอลลาเจนมากที่สุด
- สามารถเก็บรักษาคอลลาเจนให้คงสภาพมากที่สุด
- ทานง่าย ไม่ต้องกลัวติดคอ
- เห็นประสิทธิภาพได้เร็ว
- สามารถนำไปรับประทานคู่กับอาหารหรือเครื่องดื่มที่ชื่นชอบได้
- มีมาตรฐาน สะอาด เพราะส่วนใหญ่จะเก็บในซองแบบปิดสนิท
- ไม่มีสารกันบูด
-
- ข้อเสีย
- บางยี่ห้อมีน้ำตาลสูง เพราะต้องการกลบความคาว
- พกพาสะดวก แต่อาจจะชงทานไม่ถนัดเมื่ออยู่นอกสถานที่