fbpx Skip to content

สีเขียวบำบัด ผ่อนคลายความเครียดด้วยพื้นที่สีเขียว

สีเขียวบำบัด

ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือการใช้ชีวิตประจำวันที่อาจทำให้เกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว วันนี้เราจะชวนทุกคนมาบำบัดความเหนื่อยล้าผ่อนคลายความเครียดไปกับ สีเขียว กัน

สีเขียวบำบัด

สีเขียว สีแห่งการบำบัด

เคยได้ยินมาว่าหากรู้สึกเครียดหรือเมื่อยล้าสายตาให้ลองมองไปที่ต้นไม้หรือสีเขียวที่อยู่รอบ ๆ ตัวจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ นั่นก็เพราะว่าสีเขียวในศาสตร์แห่งสีบำบัดถูกยกให้เป็นเป็นสีที่ช่วยบรรเทาความเครียด เป็นสีที่ช่วยผ่อนคลายและฟื้นฟูพลัง ซึ่งจะสังเกตได้จากสถานพยาบาลหรือสถานที่บำบัดก็มักจะใช้สีเขียวมาเป็นสีของสัญญาลักษณ์ เสื้อผ้า หรือสีของใช้ต่าง ๆ

โดยสีเขียวเป็นสีที่มีความเป็นกลาง เป็นสัญลักษณ์ของความสมดุลและความคล้องจอง และสีเขียวยังเป็นสีบำบัดช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ช่วยฟื้นฟู และสะสมพลัง จึงนำสีเขียวมาเป็นสีบำบัดเพื่อลดอาการว้าวุ่น สับสน จิตใจแปรปรวน และให้ความรู้สึกใหม่ ๆ กับชีวิต ในทางการแพทย์มีการนำสีเขียวมาใช้บำบัดกับผู้ป่วยที่มีซีสต์ เนื้องอก โรคตา เบาหวาน และไอหอบ เพราะสีเขียวช่วยให้ร่างกายส่วนล่างมีความสมดุลปลอบประโลมให้จิตใจสงบ และกระตุ้นให้น้ำเหลืองไหลเวียนดี ช่วยให้ร่างกายรับออกซิเจนมากขึ้น และช่วยให้ระบบประสาททำงานมีประสิทธิภาพ

สีเขียวบำบัด

อยากผ่อนคลายพักสายตาทำไมต้องมอง สีเขียว

แสงในธรรมชาติจะมีความยาวคลื่นที่ต่างกันออกไปโดยปกติจะเห็นเป็นเพียงแสงสีขาวธรรมดา แต่เมื่อสะท้อนลงบนวัตถุที่ดูดกลืนแสงสีแตกต่างกันออกไปจึงเกิดเป็นการสะท้อนสีที่เหลือมาให้เรามองเห็นนั่นเอง โดยสีเขียวมีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 500 – 565 นาโนเมตร เป็นช่วงที่สายตาของเรามองเห็นได้มากที่สุด วัตถุนั้น ๆ จะดูดกลืนแสงสีอื่นจนหมดและสะท้อนเพียงแสงสีเขียวมาที่สายตาของเรา ทำให้สายตาของเราไม่ต้องเพ่งมากเท่ากับสีอื่น ๆ บวกกับในแง่ของจิตวิทยาที่สีเขียวส่งผลให้จิตใจรู้สึกสงบ ร่มรื่น เย็นสบายตา และผ่อนคลาย สีเขียวจึงนอกจากจะช่วยบรรเทาอาการเมื่อยล้าของสายตาแล้ว ยังช่วยให้จิตใจสงบ เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย

สีเขียวบำบัด

อยู่ท่ามกลางสีเขียวช่วยให้สุขภาพจิตดีและอายุยืน

มีงานวิจัยที่พบว่าการได้อยู่ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวบ่อย ๆ มีความสัมพันธ์กับสุขภาพจิตที่ดีและการมีอายุยืน โดยงานวิจัยนี้เป็นผลการศึกษาของ Harvard School of Public Health ที่ติดตามชีวิตพยาบาลผู้หญิง 108,630 คน ตลอดปี 2000-2008 โดยอาศัยข้อมูลที่อยู่อาศัยจากดาวเทียม

พบว่าผู้ที่มีโอกาสได้มองหรืออยู่ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวบ่อย ๆ จะมีความสัมพันธ์กับการมีสุขภาพจิตที่ดี มีภาวะซึมเศร้าหรือภาวะวิตกกังวลรวมทั้งความเครียดที่ต่ำกว่า และคนที่อยู่อาศัยในเขตที่มีพื้นที่สีเขียวหนาแน่นจะมีความสัมพันธ์กับการมีอายุยืนนานกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้หญิงที่อาศัยในเขตพื้นที่สีเขียวจะมีโอกาสเสียชีวิตจากโรคในระบบทางเดินหายใจน้อยกว่าคนที่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสีเขียวถึงร้อยละ 34 และผู้หญิงที่อาศัยในพื้นที่สีเขียวจะมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งต่ำกว่ากลุ่มที่ไม่มีสีเขียวถึงร้อยละ 13

แต่เราไม่จำเป็นที่จะต้องย้ายไปอยู่ในป่าเพื่อจะได้มีชีวิตที่ยืนนาน เพราะในกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในตัวเมือง แต่แค่ได้อยู่ในสวนเล็ก ๆ หลังบ้าน หรือสวนสาธารณะที่มีต้นไม้รายล้อมเป็นเวลาสั้น ๆ แต่สม่ำเสมอก็สามารถช่วยให้มีสุขภาพจิตที่ดีได้

สีเขียวบำบัด

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยของ University of Exeter Medical School ที่พบว่าผู้ที่ย้ายมาอยู่ในเมืองที่มีสภาพแวดล้อมสีเขียวใกล้ชิดธรรมชาติ มีการพัฒนาสุขภาพจิตในระดับที่ดีมากขึ้น ภายหลังการย้ายเข้ามาอยู่เพียง 3 ปีเท่านั้น และยังมีผลสำรวจประชากรราว 1,064 คนภายในระยะเวลา 5 ปี ระหว่างคนที่อยู่ในสภาพแวดล้อมสีเขียว กับคนที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ขาดธรรมชาติ (อยู่ท่ามกลางตึกรามบ้านช่อง) มีคุณภาพสุขภาพจิตที่แตกต่างกันอย่างไร ซึ่งพบว่าผู้ที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสีเขียว มีธรรมชาติมาก ๆ จะช่วยยกระดับความสุขทางใจให้กับคนกลุ่มนี้ได้พอสมควร แต่ผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ขาดธรรมชาติและต้นไม้สีเขียว กลับมีระดับความสุขทางใจที่น้อยลง และมีแนวโน้มว่าจะมีสุขภาพจิตที่ย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามแม้บางคนที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ขาดสีเขียวและธรรมชาติ แต่ยังมีสุขภาพจิตดีอยู่ซึ่งอาจเป็นเพราะมีความพึงพอใจในการอยู่ในสภาพแวดล้อมดังกล่าว

สีเขียวบำบัด

อีกหนึ่งงานวิจัยเกี่ยวกับสุขภาพจิตและพื้นที่สีเขียวจากมหาวิทยาลัยซัสเซ็กซ์ ที่ได้นำอาสาสมัครที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิตพื้นฐานแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกให้ไปเดินตามพื้นที่สีเขียว และกลุ่มที่สองให้ไปเดินตามห้างสรรพสินค้า ในระยะเวลาที่เท่ากันคือ 30 นาที ผลปรากฏว่ากลุ่มที่เดินในพื้นที่สีเขียวมีระดับความเครียดลดลง 71% ส่วนกลุ่มที่เดินในห้างสรรพสินค้ามีระดับความเครียดลดลงเพียง 22% เท่านั้น แถมคนที่เดินในพื้นที่สีเขียวยังรู้สึกมีความมั่นใจในชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 90% อีกด้วย

เมื่อต้องพบเจอกับความเครียดให้รีบจัดการกับความเครียดให้เร็วที่สุด เพราะการที่ต้องทนอยู่กับความเครียดในระยะยาวอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ลองให้สีเขียวที่อยู่รอบตัวช่วยเยียวยาความเหนื่อยล้าที่สะสมอยู่ภายใน หรือออกไปไปสัมผัสกับธรรมชาติบ้างเพื่อชาร์จพลังให้ร่างกายและจิตใจได้พร้อมลุยกันอีกครั้ง

สีเขียวบำบัด

หรือผ่อนคลายความเครียดให้ดียิ่งขึ้นด้วยจากสารสกัดธรรมชาติใน Becoplus ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทางเลือกของการผ่อนคลายความเครียดที่ไม่พึ่งสารเคมี ด้วยประโยชน์ของสารสกัดอย่าง Bacopa monnieri (พรมมิ) ที่ช่วยบำรุงสมองและความจำ, Vitmin B6 – ดีต่อระบบประสาทและเส้นเลือด, L-theanine จากชาเชียว ช่วยคลายเครียดและช่วยเรื่องนอนหลับ และสารสกัดอื่น ๆ รวมกว่า 11 ชนิด จึงช่วยให้คุณคลายความเครียด คลายความกังวล ขจัดความเหนื่อยล้า พร้อมช่วยปรับสมดุลการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยบำรุงสมอง เสริมสร้างความจำและสมาธิ เหมาะกับวัยเรียนหรือวัยทำงานที่ต้องพบเจอกับความเครียดเป็นประจำ

Becoplus - เสริมความจำ ป้องกันอัลไซเมอร์

Becoplus ประโยชน์อัดแน่นใน 1 แคปซูล

Becoplus เหมาะกับใคร

  • ชาย/หญิง 12 ปีขึ้นไป และผู้สูงวัย
  • ผู้ที่มองหาตัวช่วยในการนอนหลับและป้องกันอาการอัลไซเมอร์
  • ผู้ที่ต้องการอาหารเสริมที่ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
  • ผู้ที่ต้องการบรรเทาอาการโรคเก๊าท์และข้ออักเสบ
  • ผู้ที่ต้องการลดปริมาณน้ำตาลในเลือด
  • วัยเรียนหรือวัยทำงานที่ใช้สมองในการอย่างหนักและเพิ่มสมาธิ

ครบเครื่องเรื่องบำรุงสมองและการนอนหลับต้อง Becoplus

บทความที่เกี่ยวข้อง