ถ้าพูดถึง วิตามินซี คงไม่มีใครไม่รู้จักหรือไม่เคยทาน เราจะรู้กันอยู่แล้วว่า ใคร ๆ ก็ทานวิตามินซีเพื่อป้องกันหวัดกันทั้งนั้น แต่รู้หรือไม่ว่า ความจริงแล้วประโยชน์ของวิตามินซีมีมากกว่านั้น อย่างเช่น ช่วยในเรื่องของดูแลดวงตา และเรื่องของผิวพรรณ เป็นต้น เชื่อว่าเป็นประโยชน์ที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงหรือไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็ได้ ซึ่งในปัจจุบันวิตามินซียังมีออกมาหลายหลายรูปแบบ และหาทานได้ง่ายขึ้นอีกด้วย แล้วเราควรเลือกทานแบบไหนถึงจะเห็นผลมากที่สุด แล้วประโยชน์ของวิตามินซีมีอะไรบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ
ทำความรู้จัก วิตามินซี
วิตามินซี (Vitamin C) หรือกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) เป็นวิตามินชนิดที่สามารถละลายน้ำได้ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ชั้นดี ที่ช่วยป้องกันเซลล์จากความเสียหายที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย และช่วยซ่อมแซม ฟื้นฟูเนื้อเยื่อ รวมถึงช่วยการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อด้วย ช่วยทำให้แผลสมานและหายเร็วขึ้น และช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย
วิตามินซีเป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ จึงต้องได้รับวิตามินซีจากแหล่งอื่นแทน เช่น การทานอาหาร โดยแหล่งอาหารที่มีปริมาณวิตามินซีสูง ได้แก่ อาหารจำพวกผักและผลไม้ เช่น ส้ม มะละกอ มะนาว กีวี พริกหยวก ผักกาด มะเขือเทศ และบล็อคโคลี่ เป็นต้น วิตามินซีเป็นวิตามินที่เสื่อมสลายได้ง่ายเมื่อโดนอากาศและความร้อนจากการปรุงอาหาร อาจทำให้ได้รับปริมาณวิตามินซีไม่เพียงพอตามความต้องการของร่างกาย จึงจำเป็นต้องทานวิตามินซีเสริมจากอาหารเสริมต่าง ๆ ด้วย ซึ่งถือเป็นวิธีที่ฮิตมาก ๆ ในปัจจุบัน
วิตามินซี มีกี่แบบ
ใครที่เคยทานวิตามินซีอยู่แล้วจะทราบดีเลยว่า ส่วนใหญ่การทานวิตามินซีจะมาในรูปแบบของแคปซูลหรืออัดเม็ด แต่ในปัจจุบันเริ่มมีการผลิตวิตามินซีในหลากหลายรูปแบบมากขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์หรือการใช้ชีวิตในปัจจุบัน วันนี้เรานำมาฝากกัน 6 รูปแบบ
-
- แบบแคปซูล : มีขนาด 500 มิลลิกรัม จะมีขนาดเล็กกว่าวิตามินซีแบบอัดเม็ด ซึ่งมีทั้งแบบแคปซูลแข็งและแคปซูลนิ่ม วิตามินซีแบบนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมและส่วนใหญ่ในท้องตลาดจะผลิตชนิดนี้กัน ข้อดีที่เห็นชัดเลยคือ แบบแคปซูลจะกลืนง่ายกว่าแบบเม็ดอื่น ๆ
- แบบเม็ดฟู่ : เป็นวิตามินซีในรูปแบบที่เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบทานยาเม็ด โดยมีขนาดประมาณ 500 และ 1,000 มิลลิกรัม โดยวิธีการทานก็ง่ายมาก ๆ เพียงนำเม็ดฟู่ไปละลายในน้ำจนฟองหมด ย้ำว่าควรให้ฟองหมดก่อนรับประทาน เพราะฟองแก๊สที่เกิดขึ้นอาจทำให้เกิดอาการแน่นท้องไม่สบายตัวได้
- แบบอัดเม็ด : ส่วนใหญ่จะมีขนาด 25 – 1,000 มิลลิกรัม แต่ที่นิยมขายกันทั่วไปที่เราเห็นกันบ่อย ๆ จะอยู่ที่ 500 และ 1,000 มิลลิกรัม และควรเลือกทานเป็นแบบ Buffered หรือ Sustained Release เพราะตัววิตามินซีจะค่อย ๆ ละลายออกมาอย่างช้า ๆ ทำให้สามารถดูดซึมได้นานขึ้น แต่ถ้าเลือกทานแบบนี้เม็ดยาจะมีขนาดใหญ่พอสมควร อาจทำให้กลืนลำบากกว่าเม็ดปกติ
- แบบเม็ดอม : ขนาด 25 – 500 มิลลิกรัม วิตามินซีประเภทนี้จะสะดวกสำหรับผู้ที่กลืนยาเม็ดลำบาก แต่เนื่องจากวิตามินซีมีความเป็นกรดที่มีฤทธิ์กัดกร่อน ถ้าหากเราอมบ่อย ๆ อาจทำให้ฟันผุได้
- แบบเม็ดเคี้ยว : ขนาดประมาณ 30 มิลลิกรัม วิตามินซีประเภทนี้ผลิตขึ้นมาเพื่อให้เด็กเล็กทานเป็นส่วนใหญ่ เพราะทานง่าย มีรสหวาน แต่ก็จะมีปริมาณน้ำตาลที่ค่อนข้างสูง หากรับประทานในปริมาณมาก ๆ ก็อาจทำให้ฟันผุได้เช่นกัน
- แบบสารละลายสำหรับฉีด : นวัตกรรมใหม่ที่เป็นที่นิยมพอสมควรในปัจจุบันสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลา แต่ต้องการเห็นผลแบบรวดเร็ว ซึ่งจะออกฤทธิ์ค่อนข้างเร็วและร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที มีประโยชน์โดยตรงในการป้องกันหวัด และช่วงบำรุงผิว โดยไม่ต้องผ่านระบบย่อยอาหาร วิตามินซีแบบฉีดนี้ จะมีขนาด 500 มิลลิกรัม ปริมาตรของการฉีดอยู่ที่ประมาณ 2 มิลลิลิตร การใช้วิตามินซีแบบฉีดควรได้รับการแนะนำจากแพทย์ และควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
ประโยชน์ของวิตามินซี
รวบรวมมาให้แบบจุก ๆ แล้ว กับประโยชน์ของวิตามินซี บอกเลยว่ามีดีมากกว่าที่เพื่อน ๆ คิดแน่นอน
-
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ที่มีประสิทธิภาพสูง
- เสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้
- ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกาย เพื่อนำไปซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย ชะลอความแก่ และลดการเกิดริ้วรอย
- ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียหลายชนิด
- ป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL)
- ช่วยลดการเกิดเส้นเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
- ช่วยดูแลดวงตา ลดความเสี่ยงการเกิดโรคต้อกระจก
เคล็ด (ไม่) ลับ การทาน วิตามินซี ให้เห็นผลเรื่องผิว
ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากทานวิตามินซีให้เห็นผลหรือได้ประสิทธิภาพมากที่สุด ห้ามพลาดเลยค่ะ เพราะเรามีเคล็ดลับเหล่านั้นมาบอกต่อกัน ไม่แน่ว่าที่ผ่านมาคุณอาจจะกำลังทานวิตามินซีแบบผิด ๆ มาโดยตลอดก็ได้
-
- ควรทานวิตามินซีพร้อมอาหารมื้อเช้าจะดีที่สุด เพราะวิตามินซีจะถูกขับออกภายใน 2 – 3 ชั่วโมง ดังนั้นการรักษาระดับวิตามินซีในเลือดให้สูงเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพ
- หาต้องการทานวิตามินซีเพื่อบรรเทาอาการหวัด ควรทานปริมาณ 1,000 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง จะช่วยให้ระดับฮิสตามีนซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล ลดลงได้ถึงร้อยละ 40
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรรับประทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม เพราะวิตามินซีจะเข้าไปช่วยลดสารอนุมูลอิสระและการอักเสบของหลอดเลือด อีกทั้งช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคไตวาย เป็นต้น
- เพิ่มประสิทธิภาพให้กับวิตามินซี ด้วยการทานร่วมกับแคลเซียมหรือแมกนีเซียม
นอกจากการทานวิตามินซีเพื่อช่วยเรื่องของสุขภาพ โรคภัยหรือเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแล้ว วิตามินซียังช่วยในเรื่องของผิวพรรณในหลาย ๆ ด้านอีกด้วย
-
- ช่วยให้ผิวกระจ่างใส : วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีฤทธิ์ในการยั้งยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน ที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ จึงช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิวและบำรุงผิวให้กระจ่างใส
-
- ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจน : วิตามินซีมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างและฟื้นฟูคอลลาเจนที่อยู่ในชั้นผิวหนังได้ ทำให้ผิวเต่งตึง กระชับ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ปัจจุบันจึงเห็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทคอลลาเจน ที่มักจะใส่วิตามินซีเข้ามาด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทานคอลลาเจนให้เห็นผลดียิ่งขึ้น อย่าง NADE’ Collagen คอลลาเจนพรีเมียมที่มีให้เลือกถึง 2 สูตร ทั้ง NADE’ Marine Collagen+Dipeptide รูปแบบผงชงดื่ม ละลายง่าย ไม่คาว ช่วยชะลอวัยลึกถึงระดับเซลล์ และ NADE’ Collagen Jelly คอลลาเจนรูปแบบเจลลี่ รสพีช พกพาสะดวก ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ทั้ง 2 สูตรยังใส่คอลลาเจนมามากถึง 10,000 มิลลิกรัมต่อซอง ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดริ้วรอย ฝ้า กระและจุดด่างดำ ช่วยบำรุงกระดูกข้อต่อ ผม เล็บให้แข็งแรง พร้อมวิตามินซีในตัวอีกด้วย
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว : วิตามินซีมีส่วนช่วยในการเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ในชั้นผิว ทำให้หน้าไม่แห้งและดูมีชุ่มชื้นมากขึ้น
- ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า : วิตามินซีมีคุณสมบัติลดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันในชั้นผิวหนัง ช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้รูขุมขนดูเล็กลง ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน
- ช่วยลดรอยดำและรอยแดง : วิตามินซีมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ จึงช่วยเรื่องผลัดเซลล์ผิว ทำให้รอยดำ หรือรอยแดงจากสิวจางลง ให้สีผิวดูเรียบเนียน สม่ำเสมอมากขึ้น