fbpx Skip to content

ไม่มีสมาธิ หลุดโฟกัส ต้องทำอย่างไร

ไม่มีสมาธิ

ไม่มีสมาธิ เบลอ หลุดโฟกัส ทำงานได้ไม่เต็มที่ทั้ง ๆ ที่นั่งทำงานอยู่ตลอดเวลาแต่งานกลับไปไม่ถึงไหน ใครเจอแบบนี้อยู่ต้องแก้ด่วน

เคยไหมคะนั่งทำงานแปป ๆ ก็เลิกงานแล้ว แต่งานยังไม่ไปถึงไหนสักทีอาจเป็นเพราะระว่างที่ทำงานนั้นเราเสียเวลาไปกับสิ่งเร้าที่อยู่รอบ ๆ ตัว อย่างการเล่นโซเชียลมีเดีย การแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือ แชทLine ลามไปถึงอ่านข่าว ซึ่งอาจจะดูเหมือนใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้าเราหลุดโฟกัสกับงานแล้วแว้บออกมาทำอย่างอื่นเชื่อเถอะว่าเวลาทำงานจะหายไปอย่างน้อย 5-10 นาทีเลยล่ะ

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจสมองกันก่อน มีงานวิจัยที่พบว่าคนเรามักโฟกัสเรื่อง ๆ หนึ่งได้นานไม่เกิน 40 วินาทีต่อเรื่องก่อนที่จะเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น หรือหากเราเปิดการแจ้งเตือนมือถือไปด้วย สมาธิของเราก็จะเหลือเพียง 35 วินาทีต่อเรื่องเท่านั้น เพราะสมองชอบคิดในเรื่องที่น่าตื่นเต้น เช่น ข่าวต่าง ๆ ตามหน้าฟีด และเมื่อเราได้ทำเรื่องใด ๆ ที่น่าตื่นเต้นสมองจะหลั่งฮอร์โมนโดพามีน (Dopamine) ออกมาซึ่งจะทำให้เรารู้สึกพึงพอใจมาก การไถหน้าฟีดก็ทำให้สมองสร้างฮอร์โมนตัวนี้ได้เช่นกันจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เราอดใจที่จะเล่นโซเชียลมีเดียไม่ไหวนั่นเอง

 

ไม่มีสมาธิ

ไม่มีสมาธิ ทำงานทำยังไงดีนะ?

จัดโต๊ะทำงานด้วยสีฟ้า เริ่มต้นง่าย ๆ แต่สำคัญนั่นก็คือการจัดโต๊ะทำงาน นอกจากจะทำให้โต๊ะทำงานเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วยังทำให้ค้นหาเอกสารได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะหากโต๊ะรก ๆ กว่าจะหาเอกสารเจอสมาธิคงกระเจิงไปหมดแล้ว แต่เอ๊ะทำไมต้องเป็นสีฟ้าล่ะ? ก็เพราะว่าสีฟ้าจะช่วยสร้างสมาธิ และทำให้รู้สึกเหมือนเวลาเดินเร็วขึ้น หากนำสิ่งของสีฟ้ามาวางไว้บนโต๊ะทำงานก็จะช่วยทำให้เข้าสู่สภาวะสมาธิได้ง่ายขึ้น

เรียงลำดับความสำคัญ เตรียมความพร้อมก่อนการทำงานด้วยการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำในวันถัดไปว่าอะไรที่ต้องทำก่อน อะไรที่รอทำทีหลังได้คล้ายกับการทำ To do list เพื่อให้งานในแต่ละวันสำเร็จตามแผนที่วางไว้

ปิดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น ในขณะที่ทำงานหากได้ยินเสียงข้อความดัง หรือมีแจ้งเตือนขึ้นที่หน้าจอเพียงแค่หันไปมองสมาธิที่มีก็จะถูกทำลายทันที ถ้าจะไม่ให้ดูเลยก็จะกระวนกระวายใจไปอีก ดังนั้นทางที่ดีปิดการแจ้งเตือนที่ไม่สำคัญเอาไว้ก่อนแล้วโฟกัสกับงานให้เต็มที่

ทำสมาธิก่อนเริ่มวันใหม่ ก่อนไปทำงานอาจใช้เวลา 5-10 นาทีในการทำสมาธิเพื่อผ่อนคลายจิตใจให้สงบพร้อมที่จะไปทำงานอย่างมีสติและสมาธิ รวมไปถึงหากมีเวลานั่งสมาธิในระหว่างวันก็จะช่วยลดอารมณ์ความเครียดจากงานได้

มีสมาธิกับงานที่กำลังทำ แม้ว่าจะมีอีกสิบงานรอเราสะสางอยู่ แต่ก็ควรโฟกัสกับงานกำลังทำอยู่ก่อน โดยเริ่มทำจากงานที่สำคัญและรีบเร่งที่สุดเป็นอันดับแรกก่อนเพื่อจะมีสมาธิกับงานที่ทำและได้งานที่มีคุณภาพ ไม่ควรสลับทำงานไปมาเพราะนอกจากจะทำให้เสียสมาธิแล้ว งานที่ได้จะไม่มีคุณภาพอีกด้วย

ทำงานในที่สงบ บางครั้งเสียงดังจอแจก็ทำให้สมาธิหลุดได้ หากสภาพแวดล้อมดังกล่าวไม่เอื้อต่อการทำงานให้ลองหามุมที่เงียบสงบนั่งทำงานเพื่อให้มีสมาธิมากขึ้น และควรตัดสิ่งรบกวน เช่น ปิดเสียงโทรศัพท์ ปิดการแจ้งเตือน และงดเล่นโซเชียลมีเดียเมื่อลงมือทำงาน เป็นต้น

พักทันทีเมื่อสมาธิหลุด เมื่อไหร่ที่รู้สึกไม่มีสมาธิจากความเครียดหรือสภาพแวดล้อมให้หยุดพัก ออกไปเดินยืดเส้นยืดสาย มองไปที่ต้นไม้สีเขียวเพื่อพักสายตา หรือหามุมสงบทำสมาธิสักครู่ก็จะช่วยให้กลับมาสดชื่นขึ้นได้ ซึ่งมีการศึกษาพบว่าการหยุดพักทำงานชั่วขณะอาจดีกว่าการดันทุรังทำงานต่อไปโดยไม่มีสมาธิ

ฝึกสมอง กระตุ้นให้เซลล์สมองทำงานด้วยการทำกิจกรรมอย่างการอ่านหนังสือ เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ หรือเล่นเกม ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้เกิดการเชื่อมต่อของเซลล์สมองมากขึ้น และยังช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับความจำอย่างโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย

ดื่มคาเฟอีนซักแก้ว คาเฟอีนไม่ได้ช่วยแก้ง่วงเท่านั้น แต่งานวิจัยยังพบว่าคาเฟอีนช่วยเพิ่มสมาธิ ลดความหลุดโฟกัส ทำให้เราจดจ่อกับงานตรงหน้าได้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มพลังสมองและร่างกาย แต่ควรดื่มแบบจิบ ๆ เพื่อไม่ให้คาเฟอีนเข้าสู่กระแสเลือดเร็วเกินไป และไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะอาจจะส่งผลให้ปวดหัว ใจสั่น หรือนอนไม่หลับได้

รักษาสุขภาพ เช่น การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียวพอ และออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงห่างไกลจากโรคร้ายแล้ว ยังส่งผลดีต่อสมองโดยเพิ่มปริมาณสารแห่งความสุขเอ็นดอร์ฟิน และยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้า โรคหลอดเลือดสมอง โรคอัลไซเมอร์ และโรคเบาหวาน

พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับอย่างเพียงพอและมีคุณภาพมีส่วนช่วยพัฒนาทั้งทางร่างกายและสมอง ส่งผลโดยตรงต่อสมาธิและความจำ ซึ่งหากพักผ่อนน้อยเกินไปอาจมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ทั้งด้านอารมณ์ ความคิด ความจำ การมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งต่าง ๆ และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคบางชนิดอีกด้วย ดังนั้นควรจัดการงานให้เสร็จก่อนเลิกงานให้ได้มากที่สุด เวลากลางคืนจะได้พักผ่อนเต็มที่ ซึ่งเป็นผลดีกับร่างกายและประสิทธิภาพการทำงานมากกว่า

ทานอาหารบำรุงสมอง อาหารที่มีส่วนช่วยในการทำงานของสมองด้านความคิด ความจำ และอารมณ์ เช่น เนื้อปลา ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม ถั่ว ผักที่มีใยอาหารสูง และผลไม้ เป็นต้น และทานอาหารเช้ามีส่วนสำคัญที่ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น

ทานอาหารเสริม สารสกัดในอาหารเสริมบางชนิดมีส่วนช่วยในการทำงานของสมอง เช่น น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย เรสเวอราทรอล ครีเอทีน ฟอสฟาติดิลเซอรีน แอลคาร์นิทีน พรมมิ หรือโรดิเอลา เป็นต้น

Becoplus - เสริมความจำ ป้องกันอัลไซเมอร์

ขอแนะนำอาหารเสริมเพิ่มพลังสมองและช่วยโฟกัส Becoplus ที่รวมคุณประโยชน์สารสกัดจากธรรมชาติอย่าง พรมมิ ใบแปะก๊วย และสารสกัดอื่น ๆ รวมกว่า 11 ชนิด ช่วยบำรุงสมอง เสริมความจำ เสริมสร้างสมาธิ และยังช่วยปรับสมดุลการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งประโยชน์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองและทำให้มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำได้ดียิ่งขึ้น สามารถทานได้ตั้งแต่วัยเรียน (อายุ 12 ปีขึ้นไป) วัยทำงาน และผู้สูงวัย ผ่านมาตรฐานอย.และได้รับเครื่องหมายฮาลาล จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัย ทานได้ทั้งครอบครัว

Becoplus ประโยชน์อัดแน่นใน 1 แคปซูล

 

บทความที่เกี่ยวข้อง