เมื่อ ความเศร้า เข้ามาทักทาย บางคนสามารถรับมือได้ในบางคนก็ยากแสนสาหัส แต่รู้ไหมว่าความเศร้าก็มีประโยชน์ของมันอยู่ มาเรียนรู้วิธีรับมือกับความเศร้าและประโยชน์ของความเศร้ากันเถอะ!
ความเศร้า ปฏิกิริยาตามธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นเมื่อเจอสถานการณ์ที่ยากลำบากและมักเป็นเรื่องที่เราพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน เช่น ความสูญเสีย ความล้มเหลว หรือแม้กระทั่งมีความขัดแย้งกับผู้อื่น แต่ความเศร้าก็นำพาให้เราไปเจอกับความสุขได้ เช่น เมื่อเราสามารถจัดการกับความเศร้าได้และพาตัวเองออกจากสถานการณ์นั้น ๆ ได้แล้ว ความเศร้าที่มีก็เปลี่ยนเป็นความสุขแทน ดังนั้นแทนที่เราจะจมอยู่กับความเศร้า เรามาทำความเข้าใจและเรียนรู้วิธีจัดการกับความเศร้ากันดีกว่า
รวมวิธีรับมือกับ ความเศร้า
ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่สำคัญอย่างแรกคือการยอมรับในสิ่งที่ทำให้เกิดความเศร้า เพราะหากยอมรับได้ว่าเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้ ยอมรับเพื่อให้ตัวเองพร้อมที่จะก้าวไปสู่บทใหม่ ๆ ของชีวิต การทำใจยอมรับนี้จึงเป็นเหมือนการให้กำลังใจตัวเองเพื่อให้รอดจากความเศร้านี้ไปได้
ทบทวนตัวเอง ให้เวลาตัวเองทบทวนและเรียนรู้กับความผิดพลาด นำเหตุการณ์นั้น ๆ มาเป็นบทเรียนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ไม่นำปัญหาทุกอย่างมารวมกัน ค่อย ๆ จัดการกับปัญหาไปทีละเรื่องโดยจัดการกับปัญหาที่ก่อให้เกิดผลกระทบมาที่สุดก่อน เชื่อเถอะว่าทุกปัญหานั้นมีทางออกเสมอ
ระบายออกมาบ้าง การได้พูดระบายความในใจนอกจากจะช่วยบรรเทาความเศร้าแล้ว ยังช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ จากคนรอบตัวเรา บางทีปัญหานั้นอาจจะเป็นแค่เรื่องเส้นผมที่บังภูเขาแบบที่เราคาดไม่ถึงก็ได้
ทานผลไม้รสเปรี้ยว เวลาที่ร่างกายเครียดหรือมีความเศร้าน้ำตาลในเลือดจะต่ำการทานของหวานอย่างช็อกโกแลต ไอศกรีม คุกกี้ หรือเค้กจะช่วยให้อาการเศร้าลดลงเนื่องจากน้ำตาลจะเข้าไปทำให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินส่งผลให้อารมณ์ดีขึ้น แต่วิธีนี้ก็ส่งผลเสียภายหลังได้ เช่น การเสพติดของหวานที่ส่งผลให้มีน้ำตาลในเลือดสูง และยังทำให้ผิวเหี่ยวอีกด้วย หากต้องการลดความเครียดหรือความเศร้าให้เลือกทานผลไม้รสเปรี้ยวอย่างส้มหรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เนื่องจากผลไม้รสเปรี้ยวช่วยลดความเครียดและคลายกล้ามเนื้อที่เเน่นและตึงจากความเครียดให้ผ่อนคลายลงได้
ออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน เพราะการออกกำลังด้วยอุปกรณ์ที่มีแรงต้านอย่างดัมเบลหรือยางยืดช่วยลดอาการวิตกกังวลได้ ด้วยท่าทางในการออกกำลังกายและการที่ต้องโฟกัสไปที่กล้ามเนื้อ ซึ่งทำให้ลืมเรื่องหนักใจไปขณะหนึ่งได้
ยิ้มเข้าไว้ การยิ้มจะทำให้ค่อย ๆ รู้สึกดีขึ้น และยังช่วยกระตุ้นกลไกการให้รางวัลของสมองเช่นเดียวกับการได้กินช็อกโกแลต 2,000 แท่งหรือได้เงิน 16,000 ปอนด์ ช่วยลดฮอร์โมนความเครียดอย่างคอร์ติซอล อะดรีนาลีน และโดปามีน โดยจะช่วยเพิ่มระดับของฮอร์โมนที่สร้างอารมณ์ดีอย่างเอ็นดอร์ฟิน ลดความดันโลหิตไม่ให้สูง ทำให้เกิดความรู้สึกมั่นใจ เสริมสร้างบรรยากาศมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้
ฟังเพลงที่มีเสียงเบสต่ำ การฟังดนตรีที่มีเสียงเบสต่ำ ๆ จะทำให้รู้สึกมีพลัง ส่วนเสียงเบสหนัก ๆ จะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ เพลงบรรเลงที่มีเมโลดี้เรียบ ๆ เหมาะกับการฟังเพื่อให้มีสมาธิ ดนตรีคลาสสิกจะช่วยให้เกิดความผ่อนคลาย ดนตรีป็อปที่มีดนตรีสนุกสนานจะช่วยกระตุ้นการรับรู้ให้ดียิ่งขึ้นหรือมีความสดใสมากขึ้น
ออกไปสร้างประสบการ์ณบางอย่าง ออกไปทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ ออกไปทำอะไรใหม่ ๆ สร้างความสุขเรียกรอยยิ้มและได้พบความสงบจากการได้ทำบางอย่างและได้ความเชื่อเล็ก ๆ กลับมาว่าสิ่งที่จะทำให้เรามีความสุขอีกครั้งก็คือตัวเราเองนี่แหละ
เขียนสิ่งที่ทำให้มีความสุขลงกระดาษ ทบทวนตัวเองด้วยการลิสต์เรื่องราวที่ทำให้เรามีความสุข ไม่ว่าจะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว หรือสิ่งที่วาดฝันไว้ ซึ่งนอกจากจะเป็นแรงบันดาลใจแล้ว ยังเป็นเป้าหมายที่ทำให้ไม่หลงทางกับสิ่งที่ก่อให้เกิดความทุกข์ สร้างความมั่นใจและสร้างแรงผลักดันให้เราสู้ต่อไปอย่างมีภูมิคุ้มกันต้านเศร้าที่แข็งแรง
ประโยชน์ที่แฝงมาใน ความเศร้า
มีงานวิจัยด้านสมองที่ศึกษาว่าความเศร้าส่งผลอย่างไรกับสมอง และส่งผลอย่างไรต่อความคิดและพฤติกรรมของเรา
ความเศร้าช่วยให้ความจำของเราดีขึ้น การทดลองพบว่าในสถานการณ์ที่ส่งผลถึงความเศร้าหรือกระทบต่อจิตใจผู้คนมักจะจดจำรายละเอียได้ดีกว่าสถานการณ์ที่มีความสุขหรืออารมณ์ในแง่บวก และพบว่าอารมณ์เศร้าจะทำให้เราไม่ค่อยแต่งเติมหรือบิดเบือนความทรงจำดั้งเดิมมากเท่าเวลาที่มีอารมณ์สุข ความเศร้าจึงทำให้ความจำของเราถูกต้องมากกว่า
ความเศร้าทำให้เราตัดสินคนอื่นได้ดีขึ้น คนที่กำลังมีความสุขนั้นมักจะตัดสินพลาดมากกว่าคนที่กำลังมีความเศร้า โดยจากการทดลองพบว่าคนที่กำลังเศร้าจะแยกแยะรายละเอียดได้ดีกว่า แต่คนที่มีความสุขมีแนวโน้มจะตัดสินเกินกว่าความเป็นจริง
ความเศร้าเพิ่มแรงกระตุ้นในชีวิต เมื่อมีความสุขผู้คนมักอยากรักษาความสุขนั้นไว้ไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไรเพราะรู้สึกดีกับสิ่งที่เป็นอยู่แล้ว คนที่มีความสุขจึงมีแรงขับเคลื่อยในชีวิตน้อยกว่าเมื่อเทียบกับคนที่กำลังเศร้าหรือมีอารมณ์ในแง่ลบ ความเศร้าจึงเปรียบเหมือนสัญญาณเตือนที่มากระตุ้นให้ต้องใช้ความพยายามในการเปลี่ยนแปลงตัวเองมากขึ้น นอกจากนี้คนที่มีความเศร้าจะทำงานที่ยาก งานที่มีความละเอียด หรืองานที่ต้องใช้ความอดทนในการทำได้ดีกว่าคนที่กำลังมีความสุข ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะได้เบียงเบนความสนใจออกจากเรื่องเศร้า
แม้ว่าความเศร้านั้นเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่หากเรารู้และเข้าใจในความเป็นจริงว่าชีวิตนั้นมีทั้งสุขและทุกข์ รู้ทันอารมณ์ของตัวเอง ดูแลสุขภาพใจและกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เท่านี้ก็สามารถรับมือกับความเศร้าได้แล้ว ซึ่งการรู้สึกเศร้าไม่ได้หมายความว่าเราเป็นโรคซึมเศร้า แต่หากความเศร้าเหล่านั้นเริ่มส่งผลกระทบต่อการทำงาน ต่อการใช้ชีวิตประจำวัน นั่นแสดงว่าเรากำลังจะก้าวเข้าสู่ภาวะซึมเศร้า
ผ่อนคลายความเครียดป้องกันการเกิดภาวะซึมเศร้าได้ด้วย Becoplus ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่บำรุงสมองที่ช่วยลดความวิตกกังวล ลดความเครียด หนึ่งในสาเหตุของการเกิดภาวะซึมเศร้าได้ พร้อมทั้งช่วยปรับสมดุลการนอนให้การนอนหลับนั้นดียิ่งขึ้นหลับได้สนิทยิ่งขึ้น เมื่อได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอก็จะนำไปสู่สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและสุขภาพจิตใจที่ดี
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Becoplus (บีโคพลัส) ตัวช่วยเรื่องนอนหลับ บำรุงสมอง ผ่อนคลายความเครียด เสริมความจำ ป้องกันอัลไซเมอร์ ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรจากธรรมชาติมากถึง 11 ชนิด
- “พรมมิ” Bacopa monnieri
“Bacopa monnieri” หรือที่ใคร ๆ รู้จักกันในชื่อของ พรมมิ สมุนไพรที่มีประวัติการนำมาใช้อย่างยาวนานตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน มีงานวิจัยออกมารองรับถึงสรรพคุณต่าง ๆ อย่างมากมาย ทั้งช่วยในเรื่องของสมาธิ เสริมความจำ ลดการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในสมอง บำรุงระบบประสาทไปจนถึงแก้ร้อนใน
แอล-ธีอะนีน เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้ และเป็นสารประกอบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในชาเขียวและชาดำช่วยกระตุ้นการผลิตของคลื่นอัลฟ่า (α- wave) ในสมอง ทำให้สมองมีการปล่อยคลื่นอัลฟ่า (α- wave) มากขึ้น และลดการปล่อยคลื่นเบต้า (β-wave) ลง ซึ่งทำให้สมองเกิดการผ่อนคลาย และลดความเครียด - “Tart Cherry Powder”
– ช่วยลดความเครียด และความซึมเศร้าได้
– ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
– ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงขึ้น
– ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
– ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสขึ้น - “Ginkgo Leaf”
– ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
– ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์
– ช่วยลดความเครียด และความซึมเศร้าได้
– ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือน
– อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมสภาพผิว - “Lemon Balm”
– ช่วยให้ผ่อนคลาย
– ช่วยในการนอนหลับ
– เสริมสร้างระบบความจำ
– ปรับสมดุลความดันโลหิต
– ขจัดความเหนื่อยล้า - “Goji Berry”
Goji Berry หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ เก๋ากี้ สมุนไพรแพทย์แผนจีนโบราณ ที่มีงานวิจัยออกมารองรับถึงสรรพคุณในด้านต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็น superfood เลยก็ว่าได้ โดยเก๋ากี้จะเด่นในเรื่องช่วงบำรุงสายตา ทำให้ดวงตาแจ่มใสขึ้น และประโยชน์ด้านอื่น ๆ อีกมากมาย - “Vitamin D”
– ช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้า
– เพิ่มความแข็งแรงและทนทานของกล้ามเนื้อ
– ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน
– ช่วยชะลอวัยของผิว
– ป้องกันการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูก - “Vitamin B2”
– ช่วยป้องกันการเกิดไมเกรน
– ทำให้ผิวหนัง เล็บ เส้นผมมีสุขภาพดี
– ช่วยบรรเทาอาการอ่อนล้าของดวงตา
– ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
– ช่วยในกระบวนการสร้างการเจริญเติบโตและสืบพันธุ์ - “Vitamin B3”
– ช่วยเผาผลาญอาหาร ทำให้เกิดพลัง และสร้างไขมันในร่างกาย
– ช่วยการไหลเวียนของเลือด
– ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน
– ลดความดันโลหิต
– ลดระดับคลอเรสเตอรอล - “Vitamin B5”
– ช่วยเรื่องการนอนหลับ
– ช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลีย
– ช่วยผลิตฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย
– บรรเทาอาการข้ออักเสบ
– ลดระดับคอเลสเตอรอล - “Vitamin B6”
– ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง
– ช่วยชะลอวัย
– ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
– ป้องกันโรคทางระบบประสาทและโรคผิวหนัง
– ช่วยให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันได้ดียิ่งขึ้น
Becoplus ประโยชน์อัดแน่นใน 1 แคปซูล
- บำรุงระบบประสาทและสมอง
- ปรับสมดุลการนอนให้หลับสนิทยิ่งขึ้น หลับลึก หลับง่ายกว่าที่เคย
- ป้องกันการเกิดอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ
- เสริมความจำ บำรุงสมองขณะนอนหลับ เพิ่มประสิทธิภาพการจดจำให้ดียิ่งขึ้น
- เสริมสร้างสมาธิ
- ผ่อนคลายความเครียด คลายความกังวล ขจัดความเหนื่อยล้า
- บำรุงให้ร่างการแข็งแรง
- สารสกัดจากธรรมชาติ 100%
- ลดอาการปวดไมเกรน
ครบเครื่องเรื่องบำรุงสมองและการนอนหลับต้อง Becoplus