วันหยุดน้อย วันลาก็จะหมด แต่ใจมันรักการท่องเที่ยว บอกเลยว่า ทะเล คือคำตอบของคุณ เพราะนอกจากจะมีให้เลือกหลายที่แล้ว ยังไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วย ขับรถไปได้ใกล้ ๆ ไม่เกิน 3 ขั่วโมงก็ได้สูดอากาศสดชื่น ยืนรับแสงแดดและลมที่ริมทะเลได้แล้ว จะมีที่ไหนบ้างที่เรานำมาฝาก ไปดูกันเลย

ทะเล เกาะล้าน ใกล้นิดเดียว

ทะเลยอดฮิตของคนกรุงเทพฯ และอีกหลาย ๆ จังหวัดบริเวณใกล้เคียง แน่นอนว่าจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก “เกาะล้าน – พัทยา” เรียกได้ว่าทั้งใกล้ เดินทางสะดวก หาดทรายสวย แถมมีกิจกรรมหลากหลายท้าแดดให้ได้ทำกัน ครบจบในที่เดียว

เกาะล้านตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของประเทศไทย อยู่ห่างจากชายฝั่งพัทยา 7 ก.ม. และใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ เพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น ด้วยความที่เป็นทะเลที่ใกล้มาก ๆ มีเวลาแค่เสาร์ อาทิตย์ก็สามารถเที่ยวได้ และยังมีกิจกรรมให้เล่นครบ ไม่ว่าจะเป็น ดำน้ำ เรือลากร่มชูชีพ เจ็ตสกี บานานาโบ๊ท สกู๊ตเตอร์ หรือตกหมึก ทำให้เกาะล้านได้รับความสนใจจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีหาดต่าง ๆ ที่อยู่บนเกาะล้านมากมาย เช่น หาดตาแหวน หาดสังวาลย์ หาดทองหลาง หาดเทียน หาดตายาย หาดแสม และหาดนวล เป็นต้น

การเดินทางบนเกาะล้านก็ค่อนข้างสะดวกสบายและมีหลายวิธีให้เลือก ดังนี้

• • เช่ามอเตอร์ไซต์ขับเอง

วิธีนี้เราขอแนะนำสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ในการขับมอเตอร์ไซต์อย่างชำนาญแล้วเท่านั้น เพราะเส้นทางบนเกาะค่อนข้างอันตราย และคดเคี้ยวเป็นบางช่วง ควรขับด้วยความระมัดระวัง โดยจะมีร้านมอเตอร์ไซต์ให้เช่าหลายร้าน หรือที่พักบ้างที่ก็จะมีให้เช่าด้วยเช่นกัน สะดวกสุด ๆ ส่วนราคาจะอยู่ที่ประมาณวันละ 300 บาท

• • ใช้บริการมอเตอร์ไซต์นำเที่ยวโดยผู้ชำนาญทาง

เพื่อน ๆ คนไหนที่ขับมอเตอร์ไซต์ยังไม่ชำนาญ เราขอแนะนำอีก 1 วิธีที่จะเที่ยวรอบเกาะได้แบบรวดเร็วโดยบริการมอเตอร์ไซต์เที่ยวรอบเกาะราคาจะอยู่ที่ประมาณเที่ยวละ 50 บาท มั่นใจได้เพราะเจ้าถิ่นขับให้เอง ปลอดภัยแน่นอน

• • รถสองแถว

วิธีสุดท้ายที่น่าจะเหมาะสำหรับกลุ่มเพื่อน หรือคนที่มากับครอบครัวมีจำนวนคนเยอะหน่อย แนะนำให้นั่งรถสองแถวที่วิ่งรอบเกาะ ราคาจะขึ้นอยู่ตามระยะทาง เริ่มต้นที่ 40 บาท แต่ข้อจำกัดของรถสองแถวก็คือไม่สามารถเข้าถนนเส้นที่คับแคบ และจุดชมวิวต่าง ๆ ที่เส้นทางค่อนข้างเล็กได้ เน้นเที่ยวเฉพาะบริเวณหาดต่าง ๆ เท่านั้น

ช่วงที่เหมาะสมกับการเที่ยวเกาะล้าน จะอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน จะเป็นช่วงที่ไม่มีฝนและมรสุม แต่ใครจะไปช่วงไหน แนะนำให้เช็คสภาพอากาศกันก่อนไปอีกรอบจ้า

หาดสวย สงบ ผู้คนไม่พลุกพล่านต้องปราณบุรี

ใครกำลังมองหาทะเลที่เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน อยากผ่อนคลายจากความเครียดและความวุ่นวายในเมืองกรุง เราขอแนะนำให้คุณไปหาดปราณบุรี ตั้งอยู่ที่อ.ปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่อยู่ริมฝั่งทะเลของอ่าวไทย อยู่ถัดจาก อ.หัวหินมาทางด้านทิศใต้ประมาณ 30 กม. ใครที่เที่ยวหัวหินจนเบื่อแล้ว ลองขับเลยมาอีกนิด รับรองว่าคุณจะติดใจอย่างแน่นอน

นอกจากปราณบุรีจะมีจุดเด่นที่หาดสวยสงบแล้ว ยังเด่นมากในเรื่องของอาหารทะเลที่สดสุด ๆ รวมถึงเมนูพื้นบ้านน่าทานหลายอย่างอีกด้วย ที่สำคัญราคาย่อมเยาเป็นมิตรสุด ๆ ใครอยากหาอาหารทะเลทานแนะนำให้ไปที่บริเวณปากน้ำปราณเลย

จุดเช็คอินที่ห้ามพลาดเราขอแนะนำ วนอุทยานปราณบุรี หาดปากน้ำปราณบุรี วัดเขากะโหลก หาดเขากะโหลก ถ้ำพระยานคร วัดหุบตาโคตร ทุ่งสามร้อยยอด และตลาดเก่าปราณบุรีซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ที่ในช่วงวันเสาร์ อาทิตย์จะมีถนนคนเดินให้ได้แวะเดินเล่นหาของกินเพลิน ๆ กันอีกด้วย

สายแฟมิลี่ห้ามพลาด หาดเจ้าหลาว ทะเล จันทบุรี 

มาดูทะเลฝั่งทิศตะวันออกของอ่าวไทยกันบ้าง กับหาดเจ้าหลาวที่จังหวัดจันทบุรี ใครที่เคยมาแล้วจะทราบดีว่าความดีงามของหาดเจ้าหลาวคืออะไร และสำหรับสายครอบครัวน่าจะถูกใจไม่น้อย เพราะที่พักส่วนใหญ่ของที่นี่จะเน้นแบบบ้านเป็นหลัง อยู่รวมกันได้ครบไม่ว่าจะเป็นครอบครัวเล็กหรือใหญ่

มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมา ถึงที่มาของชื่อหาดเจ้าหลาวว่ามาจากคำว่า “หลาว” ซึ่งเป็นอุปกรณ์หาปลาชนิดหนึ่ง ซึ่งถูกปักอยู่บริเวณริมหาด จึงกลายมาเป็นที่มาของชื่อหาดเจ้าหลาวนั้นเอง

นอกจากความสวยงามของชายหาดแล้ว ความพิเศษของหาดเจ้าหลาวอีก 1 อย่างก็คือ หาดทรายสีแดงที่ทอดยาวเป็นระยะทางเกือบ 10 กิโลเมตร พร้อมต้นมะพร้าวปลูกริมหาดเป็นทางยาว เพิ่มความสวยงามและความร่มรื่นให้กับชายหาด 

หาดเจ้าหลาวกินบริเวณพื้นที่ไปจนถึงเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน ทำให้มีกิจกรรมทางน้ำให้ได้เล่นกันหลายอย่าง ที่เด่น ๆ เลยคือการดำน้ำตื้นดูปะการัง ที่ใครมาถึงจันทบุรีแล้วห้ามพลาดเด็ดขาด รวมถึงบริเวณทางด้านตะวันออกของชายหาดเป็นพื้นที่ประมง มีบริการให้นักท่องเที่ยวนั่งเรือท้องกระจก เพื่อชมความงามของแนวปะการังที่สวยและสมบูรณ์อีกด้วย

ใครที่ไม่อยากเล่นกิจกรรมทางน้ำ หรือเล่นมาครบทุกอย่างแล้ว ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ อีกหลายที่ให้สายถ่ายรูปได้อวดรูปลงโซเชียลกันอีกด้วย เช่น ลานหินสีชมพู อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ จุดชมวิวเนินนางพญา วัดปากน้ำแขมหนู ป้อมฝรั่งเศสหรือคุกขี้ไก่ จุดชมวิวปากน้ำแขมหนู และศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน เป็นต้น

ช่วงที่เหมาะสมกับการเที่ยวหาดเจ้าหลาว คือ ช่วงเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม

เกาะเสม็ด เด็ดทุกอย่าง

ทะเลยอดฮิตที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้มาเที่ยวที่ประเทศไทยได้ 1 ในนั้นจะต้องมีชื่อของเกาะเสม็ดอย่างแน่นอน 

เกาะเสม็ด เป็นเกาะขนาดกลาง ตั้งอยู่ในอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ที่ตำบลบ้านเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ซึ่งเกาะเสม็ดตั้งอยู่ห่างชายฝั่งบ้านเพ 6.5 กิโลเมตร เกาะมีรูปทรงสามเหลี่ยม ทะเลสีฟ้าสวยงาม มีหาดทรายที่ขาวละเอียดทำให้เป็นที่นิยมมาก

การเดินทางไปเกาะเสม็ดคือเราจะต้องนั่งเรือข้ามไปเท่านั้น ซึ่งสามารถขึ้นเรือได้หลายท่าเรือ เช่น ท่าเรือศรีบ้านเพ ท่าเรือนวลทิพย์ ท่าเรือเพ เป็นต้น

เมื่อมาถึงเกาะเสม็ดสิ่งแรกที่เราจะเห็นก็คือรูปปั้นนางยักษ์ผีเสื้อสมุทร ที่อยู่บริเวณท่าเรือหน้าด่าน ซึ่งเป็นท่าเรือหลักของเกาะเสม็ด กลายเป็นจุดเซลฟี่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวไปแล้ว ส่วนกิจกรรมหลัก ๆ ที่สามารถทำได้ที่บนเกาะเสม็ดก็มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งดำน้ำ เที่ยวชมเกาะต่าง ๆ เดินเล่นริมหาด ชิมอาหารทะเลสด ๆ หรือใครที่ชอบแสงสีเสียงก็มีโชว์ควงกระบองไฟให้ได้ดูกัน เรียกว่าสนุกได้ทุกเพศทุกวัย ตอบโจทย์ทั้งครอบครัวและคู่รัก

จุดเช็คอินที่ห้ามพลาดเราขอแนะนำ หาดทรายแก้ว อ่าววงเดือน เกาะทะลุ อ่าวพร้าว จุดชมวิวเกาะเสม็ด อ่าวไผ่ วัดเกาะเสม็ด หรือ วัดเกาะแก้วพิศดาร อ่าวนวล 

ช่วงที่เหมาะสมกับการเที่ยวเกาะเสม็ด คือระหว่างเดือนตุลาคม-เมษายน เพราะเป็นช่วงที่คลื่นลมสงบ ไม่มีพายุ และอากาศปลอดโปร่ง

เกาะกูด มัน good มาก

เกาะกูด เกาะที่ใครหลายคนเรียกว่าสวรรค์บนดิน ไม่ว่าใครที่เคยไปมาแล้วต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสวยเหมือนอยู่บนสวรรค์ เงียบสงบ มีความเป็นธรรมชาติ น้ำทะเลใส หาดทรายเนียนขาว บรรยากาศดี แถมยังมีกิจกรรมให้เลือกเล่นกันอีกเพียบ ใครที่อยากผ่อนคลายและใช้วันหยุดไปกับการพักผ่อนจริง ๆ ต้องห้ามพลาดเกาะกูดเด็ดขาด

เกาะกูดตั้งอยู่ที่อำเภอเกาะกูด เป็นเกาะที่อยู่ท้ายสุดทางทิศตะวันออกของประเทศไทย ในจังหวัดตราดถือเป็นเกาะที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเกาะช้าง และเกาะกูดถือเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ถ้าเทียบกับทุกเกาะในประเทศไทย นอกจากน้ำทะเลที่ใสแล้ว ยังมีที่เที่ยวธรรมชาติ น้ำตกและจุดชมวิวที่สวยงามอีกด้วย และอีก 1 มนต์เสน่ห์ที่ทำให้ทุกคนเหมือนต้องมนต์ นั้นก็คือน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ของเกาะกูด ที่อยากให้ทุกคนมาเห็นด้วยตาตัวเองให้ได้สักครั้ง 

วิธีเดินทางไปเกาะกูดก็มีให้เลือกหลายวิธี ทั้งแบบที่สะดวกรวดเร็วอย่างการนั่งเครื่องบินใช้เวลาเดินทางแค่เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ประหยัดเวลาสุด ๆ  แต่สำหรับใครที่เป็นสายชิลและอยากประหยัดเงินในกระเป๋าก็ยังมีรถทัวร์ให้เลือกขึ้นจากหลายเส้นทาง รวมถึงการขับรถไปเองก็สามารถทำได้ แต่ทุกวิธีที่เราได้บอกไปก็ยังต้องนั่งเรือเพื่อเข้าไปที่เกาะกูดอีกที เพื่อน ๆ คนไหนที่มีแพลนจะไปเกาะกูด ลองวางแผนคำนวณเวลาในการเดินทางกันให้ดี จะได้ไม่พลาดเที่ยวเรือค่ะ ส่วนวิธีการเดินทางเที่ยวบนเกาะกูด เพื่อน ๆ สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ หรือเหมารถซึ่งเป็นรถสองแถวเพื่อเที่ยวบนเกาะได้

จุดเช็คอินที่ห้ามพลาดเราขอแนะนำ อ่าวคลองเจ้า น้ำตกคลองเจ้า หมู่บ้านประมงอ่าวสลัด จุดชมวิวชุมชนบ้านอ่าวใหญ่ หาดบางเบ้า อ่าวน้อย คลองยายกี๋ อ่าวคลองตาติ้ อ่าวพร้าว เป็นต้น

ช่วงที่เหมาะสมกับการเที่ยวเกาะกูด แนะนำเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกคือเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบาย มาเที่ยวได้แบบชิล ๆ ส่วนอีกช่วงคือเดือนมีนาคม-เมษายน เข้าช่วงซัมเมอร์ซึ่งถือเป็นช่วงพีคของที่นี่ และนักท่องเที่ยวจะเยอะมากเป็นพิเศษ

เผยผิวสวยเที่ยว ทะเล ไม่กลัวแดด ด้วย NADE’ Collagen

จะไปเที่ยวทั้งที่ก็ต้องหาตัวช่วยดี ๆ ไว้ป้องกันผิวคล้ำเสีย ให้พร้อมถ่ายรูปอวดผิวสวยท้าแดด โดยเฉพาะเวลาไปเที่ยวทะเล เล่นกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย เจอแดดร้อน ๆ ทั้งวัน นอกจากการทาครีมบำรุงผิวหรือครีมกันแดดแล้ว ก็ต้องบำรุงจากภายในด้วย NADE’ Collagen คอลลาเจนพรีเมี่ยมที่พร้อมปกป้องผิว และเข้าฟื้นฟูบำรุงให้ผิวของคุณกระจ่างใส มีถึง 2 สูตรให้เลือกทานตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ทั้ง NADE’ Marine Collagen แบบผงชงดื่ม และ NADE’ Collagen Jelly คอลลาเจนพรีเมียมรูปแบบเจลลี่ที่รวมไว้ทั้งคอลลาเจนไดเปปไทด์ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เนียนนุ่ม และ Astaxanthin ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ลดการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ (ดีกว่า Vitamin B 100 เท่า) ช่วยปกป้องผิวไม่ให้คล้ำเสียจากรังสี UV ลดการเกิดริ้วรอยของผิวซึ่งเกิดจากการทำร้ายของแสงแดด

NADE’ Marine Collagen+Dipeptide รวมสุดยอดสารสกัดกว่า 22 ขนิด

• ผิวขาว สว่าง กระจ่างใส ชุ่มชื้น ลดริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ
• ชะลอวัยลึกถึงระดับเซลล์
• ผมไม่ขาดหลุดร่วงง่าย หนังศีรษะแข็งแรง
• เล็บแข็งแรง ไม่เปราะบาง 
• ลดความเสี่ยงในการเสื่อมสภาพของข้อต่อ
• กระดูกแข็งแรง ไม่ปวด อาการปวดเข่าลดลง
• เหงือกและฟันแข็งแรง
• เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน

NADE’ Collagen Jelly อัดแน่นสารสกัด 12 ชนิด

• ผิวขาว สว่าง กระจ่างใส ชุ่มชื้น ลดริ้วรอย 
• ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ
• ช่วยลดการเกิดสิวจากฮอร์โมน
• ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดไม่ให้คล้ำเสีย ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
• ผมไม่ขาดหลุดร่วงง่าย หนังศีรษะแข็งแรง
• เล็บแข็งแรง ไม่เปราะบาง 
• ลดความเสี่ยงในการเสื่อมสภาพของข้อต่อ
• กระดูกแข็งแรง อาการปวดเข่าลดลง
• เหงือกและฟันแข็งแรง