fbpx Skip to content

ปวดหัวเกิดจากอะไร ปวดแบบไหนถึงเสี่ยงอันตราย

ปวดหัวเกิดจากอะไร

วันนี้ปวดหัว เมื่อวานก็ปวดหัว วันก่อน ๆ ก็ปวดหัว ใครที่ชอบมีอาการปวดหัวบ่อย ๆ รู้หรือไม่ว่า ปวดหัวเกิดจากอะไร เกิดจากปัจจัยสิ่งแวดล้อมภายนอก หรือเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของเรากันแน่ และการปวดหัวก็ไม่ได้มีแบบเดียว อาการแบบไหนอันตรายควรรีบพบแพทย์ ไปดูกันเลยค่ะ

ปวดหัวเกิดจากอะไร 7 สาเหตุของอาการปวดหัว

  • พักผ่อนไม่เพียงพอ

ใครเคยมีอาการปวดหัวตุบ ๆ ในตอนเช้าหลังตื่นนอนกันบ้างคะ สาเหตุแรกของการปวดหัวก็คือ การนอนไม่หลับ หรือนอนไม่พอนั่นเองค่ะ เพราะในขณะที่เรานอนหลับ จะเกิดกระบวนการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกาย รวมถึงส่วนของสมองด้วย ซึ่งการที่คุณนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้สมองไม่ได้รับการฟื้นฟู พัฒนาอย่างที่ควรจะเป็น เท่าส่วนอื่น ๆ ทำให้เกิดอาการปวดหัวหลังตื่นนอนได้ นอกจากนั้นยังส่งผลให้คุณอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น และบางครั้งก็เกิดอาการหงุดหงิดได้ง่าย นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทุกคนควรนอนหลับให้เพียงพอต่อวัน อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มต้นที่การนอนค่ะ

ปวดหัวเกิดจากอะไร

ความเครียด ทำให้เกิดอาการปวดที่ขมับทั้ง 2 ข้าง ปวดตื้อ ๆ บางครั้งก็มีอาการปวดที่ต้นคอและหลังด้วย เป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้คนส่วนใหญ่เกิดอาการปวดหัว ด้วยสภาพแวดล้อม การใช้ชีวิตในปัจจุบัน ทำให้เกิดแรงกดดัน ความกังวลใจในเรื่องต่าง ๆ มากมาย เกิดเป็นความเครียดสะสม และอาจนำไปสู่การเกิดโรคร้ายได้ ลองหากิจกรรมที่คุณชื่นชอบทำดูในวันหยุด หรือปล่อยจอยกับบางเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้ อย่ากังวลจนเกินไปค่ะ ให้สมองและร่างกายได้ผ่อนคลายบ้าง รับรองว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้นอย่างแน่นอน

  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

วัยว้าวุ่นฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ก็ทำให้ปวดหัวได้เหมือนกัน โดยเฉพาะสาว ๆ ที่มีวันนั้นของเดือน เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงจะกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวได้

  • อากาศร้อนชื้น

นอกจากปัจจัยภายในร่างกายที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวแล้ว ปัจจัยภายนอกอย่างสภาพอากาศก็มีผลเช่นเดียวกัน ยิ่งในวันที่อากาศร้อนชื้น และต้องอยู่กลางแจ้งนาน ๆ จะส่งผลต่อสารเคมีในสมอง เกิดการกระตุ้นให้ปวดหัวได้

  • ออกกำลังกายหนักเกินไป

การออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงก็จริง แต่หากคุณหักโหมจนเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เพราะเมื่อเราออกกำลังกาย เลือดจะสูบฉีดไปทั่วร่างกาย ไหลเวียนไปเลี้ยงตามส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะที่หัว การออกกำลังกายหนักเกินไปอาจทำให้เส้นเลือดบวมและส่งผลให้ปวดหัวได้ แต่ถ้าคุณออกกำลังกายแบบพอดีก็จะช่วยลดอาการปวดหัวที่เกิดจากความเครียดได้

ปวดหัวเกิดจากอะไร

  • ใช้สายตามากเกินไป

การนั่งอยู่ท่าเดิม ๆ การจ้องโทรศัพท์มือถือหรือหน้าจอคอมเป็นเวลานานเกินไป โดยไม่พักสายตาเลย นอกจากจะทำให้ดวงตาล้า ปวดกระบอกตาแล้ว ยังส่งผลต่อกล้ามเนื้อบริเวณลำคอ ทำให้ปวดหัวได้อีกด้วย จึงควรพักสายตาทุก ๆ 20-30 นาที กระพริบตาบ่อย ๆ หรือมองไปที่อื่นบ้าง จะช่วยลดอาการปวดหัวลงได้

  • รับประทานอาหารบางประเภท

เช่น เนยแข็ง ช็อกโกแลต หรืออาหารที่มีรสจัด หากทานในปรมาณที่มากเกินไป ก็ส่งผลให้เกิดอาการปวดหัวได้

ปวดหัวเกิดจากอะไร ปวดแบบไหนถึงควรไปพบแพทย์

3 อาการปวดหัวที่มักพบได้บ่อย

  • ปวดหัวจากกล้ามเนื้อตึงตัวรอบศีรษะ (Tension Headache )
    • ปวดที่ขมับหน้าผากหรือรอบ ๆ หัว ลักษณะตึง ๆ จี๊ด ๆ อาจปวดข้างเดียวหรือ 2 ข้างก็ได้
    • เกิดจากการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ อดนอน ความเครียด หรือใช้สายตามากเกินไป
    • มักมีอาการปวดช่วงสาย ๆ ของวัน หรือในตอนบ่าย
    • อาการปวดหัวแบบนี้มักจะหายได้เอง หรือรับประทานยาแก้ปวดก็พอช่วยได้ค่ะ
  • ไมเกรน ( Migraine Headache )
    • ปวดบริเวณข้างใดข้างหนึ่ง
    • ตาพร่ามัว คลื่นไส้อาเจียน
    • หากมีเสียงดัง แสงไฟจ้า หรืออยู่ในที่อากาศร้อน จะกระตุ้นให้ปวดมากกว่าเดิม
    • ควรเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการรักษาอย่างถูกวิธี
  • ปวดหัวจากสิ่งผิดปกติในสมอง เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เส้นเลือดสมองแตก เลือดออกในสมอง เนื้องอก พยาธิ และฝีหนองเป็นต้น
    • อาการปวดหัวจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ขึ้นอยู่กับโรคที่เป็น
    • คลื่นไส้ อาเจียน
    • อาการร่วมอื่น ๆ ที่สามารถพบได้ เช่น มีไข้ ชักเกร็ง มองเห็นภาพซ้อน แขนขาอ่อนแรงซีกใดซีกหนึ่ง ซึมลง ในโรคที่ร้ายแรงมาก ๆ อาจทำให้หมดสติและถึงแก่ชีวิตได้
    • เนื่องจากโรคเหล่านี้อันตราย และเสี่ยงถึงแก่ชีวิตได้ จึงควรเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง และถูกวิธีโดยเร็วที่สุด

คลายความกังวล ลดความเครียดด้วยสมุนไพร

ปวดหัวเกิดจากอะไร

สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดอาการปวดหัว มักมาจากความเครียด ซึ่งวิธีคลายเครียดก็มีหลายแบบ และแต่ละคนก็มีการจัดการกับความเครียดแตกต่างกันไป เราขอแนะนำอีก 1 ตัวช่วยที่จะคลายความกังวล ลดความเครียดของคุณได้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบีโคพลัส (Becoplus) สกัดจากสมุนไพร ไม่มีสารเคมีเจือปน

  • ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสมอง ปรับสมดุลการนอนหลับ
  • รูปแบบแคปซูล ผลิตจากพืช
  • ไม่มีส่วนผสมของยานอนหลับ
  • บำรุงระบบประสาทและสมอง
  • ช่วยให้หลับสนิทยิ่งขึ้น หลับลึก หลับง่ายกว่าที่เคย
  • ป้องกันการเกิดอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ
  • เสริมความจำ บำรุงสมองขณะนอนหลับ เพิ่มประสิทธิภาพการจดจำให้ดียิ่งขึ้น
  • เสริมสร้างสมาธิ
  • ผ่อนคลายความเครียด
  • ช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้า
  • ช่วยบำรุงให้ร่างการแข็งแรง
  • ลดอาการปวดไมเกรน
  • ลดอาการปวดข้ออักเสบ
  • ทานวันละ 1-2 แคปซูล ก่อนนอน

สุขภาพที่ดี เริ่มต้นที่การนอน ให้บีโคพลัสเป็นตัวช่วยของคุณ

บทความที่เกี่ยวข้อง

thThai