แสงแดด กับเมืองไทย เหมือนเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร ด้วยความที่เมืองไทยเป็นเมืองที่มีอากาศร้อน แดดแรงขั้นสุด ทำให้หลายคนต้องมองหาอุปกรณ์หรือวิธีการต่าง ๆ ที่จะมาช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดไม่ให้ถูกทำร้ายได้ ซึ่งวิธีหลัก ๆ ที่หลายคนเลือกทำกันก็คือการทาครีมกันแดด กางร่ม ใส่เสื้อผ้าที่ช่วยปกป้องผิว ใส่หมวก หรือทานวิตามินกันแดด เป็นต้น แต่รู้หรือไม่ว่า แสงแดดส่งผลต่อผิวหรือร่างกายของเราอย่างไร เรามาทำความรู้จักกับแสงแดด และวิธีป้องกันเบื้องต้นกันดีกว่าค่ะ

คิดว่าคุณรู้จัก แสงแดด ดีแค่ไหน 

ถ้าพูดถึงแสงแดดหลาย ๆ คนน่าจะนึกถึง UVA หรือ UVB กัน แต่จริง ๆ แล้ว แสงแดด ประกอบไปด้วยรังสีและแสงหลายชนิด มีคุณสมบัติและลักษณะที่แตกต่างกันไป และแบ่งได้เป็น 3 แบบดังนี้

1. แสงอินฟราเรด (infrared) มีปริมาณ 50% ของแสงแดดทั้งหมด เป็นพลังงานรังสีชนิดหนึ่งที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ มีพลังงานต่ำ แต่จะสามารถรับรู้ได้ถึงความร้อน และต้องมีปริมาณที่สูงมาก ถึงจะสามารถกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำลายคอลลาเจน ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอย ผิวเหี่ยวย่นได้
2. แสงที่สามารถมองเห็นได้ (Visible light) เป็นแสงที่มีพลังงานต่ำ มีปริมาณ 45% ของแสงแดดทั้งหมดสามารถกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระได้หากได้รับเป็นเวลานานต่อเนื่องกัน จะกระตุ้นให้เกิดฝ้า และผิวคล้ำเสียได้ง่าย
3. แสงที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า (Invisible light) หรือที่เรามักคุ้นหูในชื่อของรังสียูวี (UV) ซึ่งส่งผลเสียต่อผิวหนังของเราอย่างมาก แม้จะได้รับในปริมาณเพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังได้ โดยรังสียูวีแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่

• • รังสียูวีเอ (UVA)

เป็นรังสีที่เราไม่สามารถหลบหลีกได้ เพราะมีอยู่ในแสงแดดตลอดทั้งวัน สามารถทะลุผ่านชั้นบรรยากาศของโลก เมฆ หมอก และสิ่งต่าง ๆ เช่นกระจก หน้าต่าง เข้ามาทำลายผิวหนังชั้นกำพร้าและชั้นหนังแท้ได้ รวมถึงหลอดไฟบางชนิดก็สามารถปล่อยรังสียูวีเอออกมาได้เช่นกัน ซึ่งปัญหาผิวที่เกิดจากการได้รับรังสียูวีเอเป็นประจำ ได้แก่

• กระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวกลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม
• ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย
• ทำให้ผิวไวต่อแดด เกิดภูมิแพ้แสงอาทิตย์ได้
• ทำลายตาและจอประสาทตา

• • รังสียูวีบี (UVB)

จะถูกชั้นบรรยากาศของโลกบางส่วนกั้นไว้ ทะลุมาได้เพียงร้อยละ 0.1 ของแสงทั้งหมด แตรังสียูวีบีจะมีความรุนแรงและส่งผลเสียต่อผิวมากที่สุดในช่วง 10.00-14.00 น. แต่ไม่ได้ทำร้ายชั้นผิวได้มากเท่ารังสียูวีเอ แต่ส่งผลเสียดังนี้

• กระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานิน 
• ทำให้เกิดผิวไหม้จากแดด เกิดอาการแสบร้อน แดง และไหม้เกรียมที่ผิว
• ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น 
• ทำลายดีเอ็นเอโดยตรง ทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง
• ทำลายตาและจอประสาทตา

• • รังสียูวีซี (UVC)

เป็นรังสีที่จะถูกกรองโดยชั้นบรรยากาศของโลกไว้ได้ทั้งหมด แต่จากการเกิดมลพิษในปัจจุบัน ทำให้รังสียูวีซีบางส่วนสามารถทะลุมายังโลก และก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังได้ เช่น

• ทำให้ผิวไหม้
• ผิวหนังอักเสบ
• มะเร็งผิวหนัง

• • แสงสีฟ้า (Blue Light or HEVIS light) 

เป็นแสงจากโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ที่สามารถทะลุผิวหนังจนถึงชั้นหนังแท้ได้ ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน กระตุ้นให้เกิดฝ้า จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ อันตรายไม่แพ้รังสียูวีเลย

แสงแดด มีผลต่อผิวอย่างไร

• ประโยชน์ของแสงแดด
  • ส่งผลดีต่อสุขภาพจิต

รู้หรือไม่ว่า แสงแดด ทำให้อารมณ์ดีได้ เมื่อได้รับแสงแดดในปริมาณที่เหมาะสมต่อวันเป็นประจำ ร่างกายจะกระตุ้นให้สมองหลั่งสารที่ชื่อว่าเซโรโทนิน (Serotonin) ที่มีผลต่ออารมณ์ สมาธิ ความอยากอาหาร ไปจนถึงการนอนหลับ ทำให้นาฬิกาชีวิตของร่างกายทำงานได้เป็นปกติ

• • เพิ่มวิตามินดีให้กับร่างกาย

การได้รับแสงแดดในช่วงเวลา 6 – 8 โมงเช้าทุกวัน อย่างน้อย 15 นาที จะช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินดีซึ่งมีส่วนช่วยในกระบวนการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง โดยช่วงเวลาดังกล่าว แดดจะยังไม่แรงมากจึงไม่ส่งผลเสียต่อผิวของเรามากนัก

• • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

เนื่องจากวิตามินดีที่เราได้รับจากแสงแดดในยามเช้าจะไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาว ซึ่งส่งผลให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น เท่ากับว่าระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายดีขึ้นด้วยนั่นเอง

• อันตรายจากแสงแดด
  • ริ้วรอย ฝ้า กระ และจุดด่างดำ
  • สิว
  • ผิวไหม้
  • มะเร็งผิวหนัง

ป้องกันได้เร็วกว่า ก็แก่ช้ากว่า

• บำรุงผิวจากภายในสู่ภายนอก

อย่างเช่นการทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือการทานอาหารเสริมที่ช่วยบำรุงผิว โดยเฉพาะอาหารเสริมประเภทคอลลาเจน เพราะแสงแดดจะทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดปัญหาริ้วรอยได้ง่าย การทานคอลลาเจนเสริมจึงเป็นวิธีการที่จะช่วยฟื้นฟูผิวจากการถูกทำร้ายของแสงแดดได้เป็นอย่างดี

NADE’ Collagen คอลลาเจนพรีเมียมที่ให้มากกว่าความสวย เพราะบำรุงครบจบในซองเดียว ทั้งผิว ผม เล็บ กระดูกและข้อต่อ มีให้เลือกถึง 2 สูตรตามไลฟ์สไตล์และความชอบของแต่ละคน ใครอยากหน้าเด็ก ชะลอวัยต้องลอง NADE’ Marine Collagen คอลลาเจนแบบผงชงดื่ม กลื่นมิกซ์เบอร์รี่ มาพร้อมนวัตกรรมลดอายุผิวและร่างกาย ที่ได้รับรางวัลโนเบล หรือวัยรุ่นที่ไม่มีเวลา แต่อยากดูแลผิวให้กระจ่างใสอยู่เสมอ ต้อง NADE’ Collagen Jelly Plus คอลลาเจนรูปแบบเจลลี่พร้อมทาน กลิ่นพีช มี Astaxanthin ช่วยปกป้องผิวจาก แสงแดด ไม่ให้ผิวคล้ำเสียง่าย จะสูตรไหนก็บำรุงผิวจากภายในอย่างตรงจุด

• ทาครีมกันแดด

ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านหรือออกนอกบ้าน การทาครีมกันแดดถือเป็นอีก 1 รูทีนที่ทุกคนต้องไม่ลืม หลังลงสกินแคร์บำรุงผิวต้องทากันแดดตามทุกครั้ง เพื่อป้องกันแสงทุกชนิดที่จะสัมผัสกับผิวเราได้โดยตรง และทำให้เกิดปัญหาผิวตามมา

• หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด

ช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดคือ 10.00 – 17.00 น. หากมีความจำเป็นต้องออกแดดในช่วงเวลาดังกล่าว ควรสวมใส่เสื้อผ้า หรือมีอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันรังสียูวีจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับคนที่มีความจำเป็นจะต้องโดนแสงแดดเป็นประจำและไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ สามารถทำตามที่เราบอกเพื่อป้องกันแสงแดดได้เลย เพียงเท่านี้ผิวของคุณก็จะไม่ต้องเสี่ยงกับการเกิดปัญหาผิวตามมาแล้วค่ะ