ใครที่มีปัญหาการนอนไม่หลับสะสมเป็นเวลานานและกำลังมองหา ยานอนหลับทาน ต้องหยุดก่อน! เพราะผลข้างเคียงของยานอนหลับนั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพมากมายและอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ รายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้นติดตามได้ในบทความนี้
เมื่อเจอปัญหานอนไม่หลับหลายคนเลือกที่จะใช้ยานอนหลับใช่ไหมคะ แต่รู้หรือไม่ว่าการทานยานอนหลับไม่ใช่ทางออกที่ดีของการแก้ปัญหานี้ เพราะยานอนหลับช่วยให้นอนหลับได้ก็จริง แต่ก็มีผลเสียมามายเช่นกัน จะมีอะไรบ้างนั้นก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักเจ้ายานอนหลับกันก่อนดีกว่าค่ะ
ทำความรู้จัก ยานอนหลับ
ยานอนหลับ คือยาที่ออกฤทธิ์ช่วยให้นอนหลับ ช่วยบรรเทาอาการเครียดและวิตกกังวล ยานอนหลับช่วยให้ผู้ที่มีความผิดปกติในการนอนหลับ เช่น ผู้ที่เป็นโรคนอนไม่หลับ หรือตื่นกลางดึกแล้วไม่สามารถนอนต่อได้สามารถนอนหลับได้โดยไม่ตื่นขึ้นมาในตอนกลางดึกอีก ผู้ที่มีปัญหาในการนอนหลับจึงนิยมใช้ยานอนหลับในการช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
ซึ่งยานอนหลับเป็นยาในกลุ่มที่ต้องระมัดระวังในการใช้และควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ แม้จะหาซื้อได้ตามร้านขายยาแต่ไม่ควรซื้อมาทานเอง เพราะอาจทานเกินขนาดจนเสี่ยงเกิดอันตรายจากยานอนหลับได้
ผลข้างเคียงของยานอนหลับ
การทานยานอนหลับแม้จะช่วยให้สามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีผลข้างเคียงที่มากมายเช่นกัน
- หลังตื่นนอนมีอาการเวียนศรีษะ ไม่สดชื่น
- มีอาการอ่อนเพลีย
- อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย
- บางรายมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
- ประสิทธิภาพในการทำงานของสมองลดลงเมื่ออยู่ภายใต้ฤทธิ์ของยา
- เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เมื่อต้องขับรถ ทำงานกับเครื่องจักร หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เสี่ยงกับการเกิดอันตราย
อันตรายของยานอนหลับ
- ดื้อยานอนหลับ
เมื่อใช้ยานอนหลับติดต่อกันสักระยะหนึ่งแล้ว อาจต้องใช้ยานอนหลับในปริมาณที่มากกว่าเดิมหรือยานอนหลับที่ออกฤทธิ์แรงขึ้นจึงจะช่วยให้นอนหลับได้ เพราะร่างกายเกิดการดื้อยา - ติดการใช้ยานอนหลับ
ยานอนหลับออกฤทธิ์กดระบบประสาทและสมอง หากเราทานยานอนหลับติดต่อเป็นเวลานาน ร่างกายจะชินกับการทายาถึงจะทำให้นอนหลับได้ และเมื่อเราไม่ได้ทานยานอนหลับก็จะเกิดอาการกระสับกระส่าย นอนไม่หลับ จนสุดท้ายต้องกลับไปพึ่งยานอนหลับอีก - ความจำเสื่อม
ยานอนหลับมีผลโดยตรงต่อสมอง หากทานยานอนหลับติดต่อกันเป็นเวลานานอาจเสี่ยงเกิดอาการสมองเสื่อม สูญเสียความจำ และเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ในกลุ่มผู้สูงอายุได้ - เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
ยานอนหลับบางชนิดอาจทำให้เกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในเพศชายได้
- อันตรายถึงชีวิต
การทานยานอนหลับที่มากเกินไปหรือเกินขนาดอาจทำให้ฤทธิ์ของยาไปกดการทำงานของสมองในส่วนที่ควบคุมการหายใจ ก่อให้เกิดภาวะระบบหายใจล้มเหลวเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ และไม่ควรทานยานอนหลับคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะฤทธิ์ของยานอนหลับและแอลกอฮอล์อาจกดการหายใจจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เช่นกัน
อยากเลิกทานยานอนหลับต้องทำอย่างไร
อยากเลิกทานยานอนหลับแต่ก็กลัวจะนอนไม่หลับลองทำตามนี้
- ปรึกษาแพทย์
การเลิกทานยานอนหลับเองอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ได้วิธีที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพร่างกาย จิตใจ และควรตัวปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด - ปรับพฤติกรรม
เพื่อให้การเลิกทานยานอนหลับมีประสิทธิภาพควรเตรียมตัวและจัดเตรียมสภาพแวดล้อมให้เอื้อกับการนอนหลับ เช่น- เข้านอนให้เป็นเวลา ไม่งีบระหว่างวัน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เลี่ยงการออกกำลังหนัก ๆ ช่วงก่อนนอน
- จัดห้องนอนให้เอื้อต่อการนอน เช่น เงียบ มืด อากาศเย็นสบาย เป็นต้น
- เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ กาแฟ หลังเที่ยง
- เลิกสูบบุหรี่เพราะนิโคตินในบุหรี่ส่งผลให้นอนหลับได้ยากขึ้น
- งดรับประทานอาหารมื้อหนักก่อนเข้านอน
- ทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลายก่อนนอน เช่น อ่านหนังสือเบาสมอง หลีกเลี่ยงการคิดเรื่อ
- เครียดและทำกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกตื่นตัว เช่น เล่นเกม ดูโทรทัศน์ เล่นโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
- ลดความเครียด
ความเครียดเป็นสภาวะอารมณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อต้องเจอกับปัญหาต่าง ๆ และมักจะแสดงปฏิกิริยาตอบสนองต่อความเครียดที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งปัญหานอนไม่หลับเป็นหนึ่งในปฏิกิริยาที่ตอบสนองต่อความเครียด ซึ่งหากสามารถจัดการและบรรเทาความเครียดนั้นได้ก็ส่งผลให้การนอนหลับนั้นดีขึ้น วิธีจัดการกับความเครียดแบบง่าย ๆ มีอะไรบ้าง- ออกกำลังกาย ไม่ต้องถึงขั้นออกกำลังกายแบบหนักหน่วงเพียงแค่เดินสัก 10 นาที หรือหากมีเวลาไปออกกำลังกายอย่างจริงจังอย่างน้อยวันละ 30 นาที เพียง 3-5 วันต่อสัปดาห์ก็ช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขแล้ว
- ฝึกสมาธิ เมื่อรู้สึกเครียดหรือต้องคิดซ้ำไปซ้ำมาในเรื่องเดิม ๆ อาจทำให้เราจมอยู่กับความเครียดจนไม่อยากทำอย่างอื่น ดังนั้นหากเกิดความกังวลให้ลองทำสมาธิ สวดมนต์ ฝึกลมหายใจ ทำให้ชีพจนเต้นช้าลง จิตใจสงบลงก็ช่วยให้เราผ่อนคลายความเครียดและยังมีสติในการคิดแก้ไขปัญหาได้อีกด้วย
- จัดสรรเวลาการทำงานและการใช้ชีวิต เวลาทำงานทำอย่างเต็มที่หลังจากนั้นให้หยุดคิดเรื่องงาน โฟกัสไปที่เรื่องส่วนตัวและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ดูหนัง ฟังเพลง เอาตัวเองออกจากเรื่องเครียด ๆ ด้วยการฟังเพลงหรือดูหนังเรื่องโปรด
- ปรับเปลี่ยนความคิด ปรับมุมมองหลาย ๆ ด้านอาจทำให้เห็นวิธีแก้ไขปัญหาที่ดียิ่งขึ้น หรือหากเราทำความเข้าใจในปัญหาได้อาจทำให้เราเข้าใจสถานการณ์ และหายเครียดได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้รับมือกับปัญหาต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ลดการทาน ยานอนหลับ และปรับสมดุลการนอนด้วย Becoplus
ลดปริมาณการทานยานอนหลับควบคู่ไปกับการปรับสมดุลการนอนด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Becoplus เพิ่มคุณภาพการนอนหลับให้ดียิ่งด้วยสมุนไพรจากธรรมชาติกว่า 11 ชนิด ทางเลือกของการนอนหลับโดยไม่พึ่งสารเคมีด้วยเมลาโทนินจากธรรมชาติและพรมมิพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น ที่ช่วยให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หลับได้สนิทยิ่งขึ้น และยังช่วยผ่อนคลายความเครียดหนึ่งในสาเหตุของปัญหานอนไม่หลับ อีกทั้งไม่ต้องเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดจากการใช้ยานอนหลับอีกด้วย เพียงวันละ 1 แคปซูลก่อนนอน ให้คุณหลับเต็มอิ่มทุกคืน ตื่นเช้าอย่างสดชื่นได้ทุกวัน
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Becoplus (บีโคพลัส) ตัวช่วยเรื่องนอนหลับ บำรุงสมอง ผ่อนคลายความเครียด เสริมความจำ ป้องกันอัลไซเมอร์ ที่มีส่วนผสมของสมุนไพรจากธรรมชาติมากถึง 11 ชนิด
- “พรมมิ” Bacopa monnieri
“Bacopa monnieri” หรือที่ใคร ๆ รู้จักกันในชื่อของ พรมมิ สมุนไพรที่มีประวัติการนำมาใช้อย่างยาวนานตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน มีงานวิจัยออกมารองรับถึงสรรพคุณต่าง ๆ อย่างมากมาย ทั้งช่วยในเรื่องของสมาธิ เสริมความจำ ลดการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในสมอง บำรุงระบบประสาทไปจนถึงแก้ร้อนใน - แอล-ธีอะนีน เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้ และเป็นสารประกอบที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในชาเขียวและชาดำช่วยกระตุ้นการผลิตของคลื่นอัลฟ่า (α- wave) ในสมอง ทำให้สมองมีการปล่อยคลื่นอัลฟ่า (α- wave) มากขึ้น และลดการปล่อยคลื่นเบต้า (β-wave) ลง ซึ่งทำให้สมองเกิดการผ่อนคลาย และลดความเครียด
- “Tart Cherry Powder”
– ช่วยลดความเครียด และความซึมเศร้าได้
– ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
– ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรงขึ้น
– ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต
– ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสขึ้น - “Ginkgo Leaf”
– ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
– ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์
– ช่วยลดความเครียด และความซึมเศร้าได้
– ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือน
– อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมสภาพผิว - “Lemon Balm”
– ช่วยให้ผ่อนคลาย
– ช่วยในการนอนหลับ
– เสริมสร้างระบบความจำ
– ปรับสมดุลความดันโลหิต
– ขจัดความเหนื่อยล้า - “Goji Berry”
Goji Berry หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ เก๋ากี้ สมุนไพรแพทย์แผนจีนโบราณ ที่มีงานวิจัยออกมารองรับถึงสรรพคุณในด้านต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็น superfood เลยก็ว่าได้ โดยเก๋ากี้จะเด่นในเรื่องช่วงบำรุงสายตา ทำให้ดวงตาแจ่มใสขึ้น และประโยชน์ด้านอื่น ๆ อีกมากมาย - “Vitamin D”
– ช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้า
– เพิ่มความแข็งแรงและทนทานของกล้ามเนื้อ
– ช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดและป้องกันโรคเบาหวาน
– ช่วยชะลอวัยของผิว
– ป้องกันการสูญเสียแคลเซียมจากกระดูก - “Vitamin B2”
– ช่วยป้องกันการเกิดไมเกรน
– ทำให้ผิวหนัง เล็บ เส้นผมมีสุขภาพดี
– ช่วยบรรเทาอาการอ่อนล้าของดวงตา
– ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
– ช่วยในกระบวนการสร้างการเจริญเติบโตและสืบพันธุ์ - “Vitamin B3”
– ช่วยเผาผลาญอาหาร ทำให้เกิดพลัง และสร้างไขมันในร่างกาย
– ช่วยการไหลเวียนของเลือด
– ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน
– ลดความดันโลหิต
– ลดระดับคลอเรสเตอรอล - “Vitamin B5”
– ช่วยเรื่องการนอนหลับ
– ช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลีย
– ช่วยผลิตฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย
– บรรเทาอาการข้ออักเสบ
– ลดระดับคอเลสเตอรอล - “Vitamin B6”
– ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง
– ช่วยชะลอวัย
– ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
– ป้องกันโรคทางระบบประสาทและโรคผิวหนัง
– ช่วยให้ร่างกายดูดซึมโปรตีนและไขมันได้ดียิ่งขึ้น
Becoplus ประโยชน์อัดแน่นใน 1 แคปซูล
- บำรุงระบบประสาทและสมอง
- ปรับสมดุลการนอนให้หลับสนิทยิ่งขึ้น หลับลึก หลับง่ายกว่าที่เคย
- ป้องกันการเกิดอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ
- เสริมความจำ บำรุงสมองขณะนอนหลับ เพิ่มประสิทธิภาพการจดจำให้ดียิ่งขึ้น
- เสริมสร้างสมาธิ
- ผ่อนคลายความเครียด
- บำรุงให้ร่างการแข็งแรง
- สารสกัดจากธรรมชาติ 100%
- ลดอาการปวดไมเกรน
ครบเครื่องเรื่องบำรุงสมองและการนอนหลับต้อง Becoplus